May 11, 2019 07:33
ตอบโดย
วลีรักษ์ จันทร (พว.)
อาการปวดประจำเดือน อาการที่ผู้หญิงแทบทุกคนคุ้นเคยกันดี บางรายปวดไม่มาก..แค่ทานยาก็หาย แต่ในบางราย ปวดมากจนถึงขั้นไม่สามารถใช้ชีวิตประจำวันตามปกติได้ ซึ่งระดับอาการปวดรุนแรงนี้ไม่ใช่สิ่งที่ควรละเลย เพราะนี่..คือสัญญาณเตือนของภาวะมดลูกผิดปกติ
การปวดท้องประจำเดือนอาจดูเหมือนเรื่องปกติสำหรับผู้หญิงค่ะ แต่ถ้ารอบเดือนไหน..ระดับอาการปวดมากกว่าปกติ บางรายถึงขั้นต้องหยุดเรียนหรือหยุดงาน ร่วมกับการมีประจำเดือนเป็นสีดำคล้ำหรือเป็นลิ่มเลือดถือว่าไม่ใช้เรื่องปกติแล้วค่ะ
การปวดประจำเดือน ไม่เพียงเป็นอาการของภาวะมดลูกผิดปกติ แต่ยังเป็นสัญญาณเตือนโรคทางนรีเวชร้ายแรง ดังนั้น หากมีอาการปวดที่รุนแรง รวมถึงลักษณะของประจำเดือนผิดปกติ ก็ควรรีบไปพบแพทย์เพื่อตรวจหาสาเหตุนะค่ะ
ตอบโดยแพทย์ที่มีใบอนุญาต คำตอบของแพทย์เป็นการให้ความรู้และคำแนะนำเบื้องต้น ไม่สามารถแทนการวินิจฉัยโรค หรือการรักษา คุณควรพบแพทย์ที่สถานพยาบาลเพื่อให้แพทย์ตรวจทุกครั้ง หากคุณมีเหตุฉุกเฉินกรุณาโทรแจ้ง 1669
ทำเลสิกวันนี้ ที่คลินิกหรือรพ. ใกล้บ้านคุณ เริ่มต้นที่ 25,500 บาท ลดสูงสุด 35%!!
จองผ่าน HD ประหยัดกว่า / จ่ายทีหลังได้ / ผ่อน 0% ได้ / พร้อมแอดมินคอยตอบทุกคำถาม!
ตอบโดย
นิธิวัฒน์ ตั้งชมพู (นพ.)
สวัสดีครับ
อาการปวดประจำเดือน มีสาเหตุการเกิดสองแบบ ได้แก่
>>แบบแรก คือ เกิดจากการหดตัวของมดลูก เพื่อขับเลือดประจำเดือน สามารถเกิดได้เป็นปกติครับ โดยอาการอาจจะเกิดขึ้น ก่อนมีประจำเดือน 1-2 วัน และในช่วงการมีประจำเดิอน โดยเฉพาะ 12-72 ชมแรกครับ
อาการปวด จะปวดแบบบีบๆ เหนือหัวหน่าว บางคนอาจร้าวไปหลังได้ด้วย และร่างกาย อาจหลั่งสารความเจ็บปวดออกมา ทำให้มีอาการตามระบบร่วมด้วย เช่น ปวดศรีษะ คลื่นไส้ อาเจียน เวียนศรีษะ ท้องเสียถ่ายเหลว เป็นต้นครับ
>>แบบที่สอง คือ การปวดประจำเดือนทีมีสาเหตุมาจากความผิดปกติขอวระบบสืบพันธ์สตรีอื่นๆ เช่น เยื่อบุมดลูกเจริญผิดที่ เนื้องอก ในมดลูก หรือการติดเชื้อ เป็นต้น
ผู้ป่วยอาจประสบปัญหา เช่น ปวดมากจนรบกวนการเรียน / การทำงาน ปวดจนพักไม่ได้ ปวดนานไม่หาย ปวดข้างใดข้างหนึ่งของท้องน้อยมากกว่าปกติ คลำได้ก้อนหรือ มีเลือดออกขณะมีเพศสัมพันธ์ มีบุตรยาก หรือมีตกขาวผิดปกติได้ครับ
คำแนะนำเบื้องต้น เมื่อมีประจำเดือนและมีอาการปวดประจำเดือนคือ
1.ทานน้ำมากๆ
2.ยาแก้ปวดที่ช่วยได้ เช่น mefenamic acid หรือ ponstan , diclofenac , ibuprofen , พาราเซตามอล เป็นต้น
3.การประคบอุ่น หรือ การใช้ถุงน้ำร้อน
4.พักผ่อนมากๆ
5.พยายามไม่มีเพศสัมพันธ์ขณะมีประจำเดิอน เนื่องจากเพิ่มความเสี่ยงการติดเชื้อต่างๆได้ง่ายครับ
หากมีอาการผิดปกติ ที่หมอกล่าวไป ที่อาจมีความเสี่ยงในการเกิดความผิดปกติที่จะทำให้เกิดอาการปวดประจำเดือนแบบที่สอง ได้แก่ ปวดมากจนรบกวนการเรียน / การทำงาน ปวดจนพักไม่ได้ ปวดนานไม่หาย มีเลือดออกขณะมีเพศสัมพันธ์ มีบุตรยาก หรือมีตกขาวผิดปกติ ให้ไปพบแพทย์เพื่อตรวจร่างกาย ตรวจภายใน หรือส่งตรวจทางห้องปฏิบัติการเพิ่มเติมครับ
การรักษาจะเป็นไปตามสาเหตุครับ เช่น การให้ยาปรับฮอร์โมน การผ่าตัด เป็นต้นครับ
ตอบโดยแพทย์ที่มีใบอนุญาต คำตอบของแพทย์เป็นการให้ความรู้และคำแนะนำเบื้องต้น ไม่สามารถแทนการวินิจฉัยโรค หรือการรักษา คุณควรพบแพทย์ที่สถานพยาบาลเพื่อให้แพทย์ตรวจทุกครั้ง หากคุณมีเหตุฉุกเฉินกรุณาโทรแจ้ง 1669
สวัสดีค่ะ พอดีเป็นคนที่ปวดท้องประจำเดือนมาก ประจำเดือนมาปกติทุกเดือนค่ะ แต่จะมามากโดยปกติจะเป็นประจำเดือนแค่3-4วัน ทุกครั้งที่เป็นประจำเดือนจะปวดท้องมาก และก็ปวดหลังมากเช่นกัน ประจำเดือนมามากและชอบเป็นลิ่มเลือดทุกเดือน โดยปกติประจำเดือนของหนูจะมาทุก25-26วัน อยากทราบว่าการปวดท้องประจำเดือนกับการที่มีลิ่มเลือดทุกเดือนถือว่าเป็นปกติใมค่ะ
ตอบโดยแพทย์ที่มีใบอนุญาต (คำตอบนี้เป็นการให้คำแนะนำเบื้องต้น ไม่สามารถแทนการวินิจฉัยโรคหรือการรักษา คุณควรพบแพทย์เพื่อรับการตรวจหากมีอาการน่ากังวล)