June 28, 2019 06:57
ตอบโดย
นิชดา พงษ์ธัญญกรณ์ (แพทย์ทั่วไป) (พญ.)
สวัสดีค่ะ จากประวัติอาจบอกไม่ได้แน่ชัดว่าเกิดจากโรคอะไร หมอแนะนำให้ไปพบแพทย์เพื่อทำการตรวจหาสาเหตุ เพราะการจะวินิจฉัยได้ถูกต้องต้องอาศัยจากประวัติ ตรวจร่างกาย และอาจต้องตรวจพิเศษร่วมด้วยค่ะ สำหรับอาการเจ็บหน้าอกสามารถเกิดขึ้นได้จากหลายสาเหตุค่ะ เช่น
-โรคกรดไหลย้อน(GERD) มีอาการแสบร้อนกลางหน้าอก จุกแน่นลิ้นปี่ เรอเปรี้ยวหรือขมคอ บางรายอาจมีอาการไอแห้งๆได้ มักเป็นมากหลังกินอาหารมื้อหนัก นอกจากนี้อาจคิดถึงโรคทางระบบอาหารอื่นๆ เช่น โรคกระเพาะ (Peptic Ulcers), ภาวะหลอดอาหารทะลุ (Esophageal Perforation), โรคของถุงน้ำดี (Gallbladder disease), ตับอ่อนอักเสบ (Pancreatitis), โรคไส้เลื่อนกะบังลม (Hiatal Hernia) เป็นต้น
-โรคหัวใจ มักมีอาการเจ็บแน่นหน้าอกเหมือนถูกกดทับ เจ็บร้าวไปที่อื่น หรือเจ็บแปล๊บเหมือนมีดแทง มีอาการเหนื่อย เหงื่อออก ใจสั่น คลื่นไส้ อ่อนแรง เวียนศีรษะ ซึ่งถ้ามีอาการเหล่านี้ควรรีบไปพบแพทย์ทันที
สำหรับโรคหัวใจที่ทำให้เจ็บหน้าอก เช่น โรคกล้ามเนื้อหัวใจตายเฉียบพลัน(Myocardial Infarction), เลือดเซาะผนังหลอดเลือดแดงใหญ่(Aortic Dissection), กล้ามเนื้อหัวใจอักเสบเฉียบพลัน (Myocarditis), โรคเยื่อหุ้มหัวใจอักเสบ (Pericarditis) เป็นต้น
-กล้ามเนื้อบริเวณหน้าอกอักเสบหรือกระดูกอ่อนบริเวณหน้าอกอักเสบ (Myositis/Costochondritis) จะมีอาการเจ็บจี๊ดๆแถวหน้าอกเหมือนมีอะไรมาทิ่มแทง มีจุดกดชัดเจน อาจเจ็บเวลาที่ขยับตัวหรือเปลี่ยนท่าบางท่า มักเกิดจากการใช้งานหนัก เช่น ออกกำลังกาย ยกของหนัก หรือจากการบาดเจ็บ
-โรคเกี่ยวกับปอด เช่น โรคลิ่มเลือดอุดกั้นปอด (Pulmonary Embolism) มีอาการเจ็บแปล๊บกลางอก หัวใจเต้นเร็ว ไอเป็นเลือด, ภาวะความดันหลอดเลือดปอดสูง (Pulmonary Hypertension) เจ็บแน่นหน้าอกเหมือนโดนทับ, เยื่อหุ้มปอดอักเสบ (Pleuritis) เจ็บแปล๊บเหมือนถูกแทง เป็นมากเวลาหายใจเข้า ไอ จาม, โพรงเยื่อหุ้มปอดมีอากาศ (Pneumothorax) เจ็บแปล๊บมากขึ้นเมื่อหายใจเข้า
-จากสาเหตุอื่นๆ เช่น จากความเครียด ความกังวล จะสัมพันธ์กับอารมณ์ ตรวจร่างกายแล้วอย่างอื่นปกติ
ตอบโดยแพทย์ที่มีใบอนุญาต คำตอบของแพทย์เป็นการให้ความรู้และคำแนะนำเบื้องต้น ไม่สามารถแทนการวินิจฉัยโรค หรือการรักษา คุณควรพบแพทย์ที่สถานพยาบาลเพื่อให้แพทย์ตรวจทุกครั้ง หากคุณมีเหตุฉุกเฉินกรุณาโทรแจ้ง 1669
ทำเลสิกวันนี้ ที่คลินิกหรือรพ. ใกล้บ้านคุณ เริ่มต้นที่ 25,500 บาท ลดสูงสุด 35%!!
จองผ่าน HD ประหยัดกว่า / จ่ายทีหลังได้ / ผ่อน 0% ได้ / พร้อมแอดมินคอยตอบทุกคำถาม!
ตอบโดย
นิธิวัฒน์ ตั้งชมพู (นพ.)
สวัสดีครับ
อาการเจ็บหน้าอก มีสาเหตุได้หลายแบบครับ ได้แก่
1.สาเหตุจากปอด เช่น ปอดอักเสบ ติดเชื้อ , หอบหืด ลมรั่วในปอด ซึ่งถ้ามีลมรั่วในปอด อาการเจ็บจะสัมพันธ์กับการหายใจเข้าออก สามารถเกิดขึ้นได้เองโดยไม่มีปัจจัยกระตุ้น หรือบางคนเป็นหลังการติดเชื้อ หรือการกระทบกระแทกครับ
2.สาเหตุทางหัวใจ เช่น กล้ามเนื้อหัวใจอักเสบ หรือถ้าคนอ้วน / สุงอายุ อาจเกิดจากหัวใจขาดเลือด (ในคนอายุน้อยก็พบได้ แต่อาจจะน้อยกว่าครับ)
อาการปวดของหัวใจขาดเลือด ลักษณะจะปวดแน่นๆ เหมือนมีอะไรมาทับ และจะมีอาการแม้ในขณะพัก บางคนอาจหน้ามืดเป็นลม ร้ายแรงสุด บางคนอาจหัวใจหยุดเต้นไปเลยนะครับ ถ้าคนไข้มีอาการดังนี้ ให้รีบไปพบแพทย์โดยเร่งด่วนครับ
นอกจากนี้ คนไข้อาจมีอาการร่วมเช่น นอนราบไม่ได้ หรือมีอาการตื่นมาหายใจเหนื่อย หลังจากหลับไปแล้ว 1-2 ชม ครับถ้ามีอาการดังนี้ อาจสนับสนุนอาการของหัวใจวายครับ
3.สาเหตุที่กล้ามเนื้อ เช่น ผ่านการออกกำลังกาย / ออกแรงมากๆ อาจมีการอักเสบของกล้ามเนื้อและกระดูก กรณีนี้อาจมีจุดกดเจ็บชัดเจนที่บริเวณหน้าอกครับ สามารถเป็นๆหายๆได้
4.กรดไหลย้อน อาการจะไปในทางแน่นๆกลางอก บางคนอาจมีแสบร้อนยอดอก หรือ heart burn ได้ครับ
ถ้าอาการเป็นมาก แนะนำให้ไปตรวจร่างกายเพิ่ทเติมที่ รพครับ อาจมีการทำ คลื่นไฟฟ้าหัวใจ หรือ เอกเรย์เพิ่มเติมครับ
ตอบโดยแพทย์ที่มีใบอนุญาต คำตอบของแพทย์เป็นการให้ความรู้และคำแนะนำเบื้องต้น ไม่สามารถแทนการวินิจฉัยโรค หรือการรักษา คุณควรพบแพทย์ที่สถานพยาบาลเพื่อให้แพทย์ตรวจทุกครั้ง หากคุณมีเหตุฉุกเฉินกรุณาโทรแจ้ง 1669
หนูมักจะมีอาการปวดหน้าอกบ่อยครั้งปวดแบบหายใจไม่ทันนะคะมันจะเกร็งๆจี๊ดๆขึ้นมาเวลาเป็นจะหนูหายใจไม่ทัน และอีกอย่างเวลาเป็นหนูจะหายใจเข้าไม่ได้มันจะทำให้หนูเจ็บหน้าอก มันปวดไปหมดทั้งซีกเลยปวดแบบจี้ดขึ้นมาเลยค่ะเหมือนมีอะไรทิ่มเลยปวดแถวบริเวณซี่โครงตามแขนด้วยมีอาการเหนื่อยเร็วมากด้วยและโดยเฉพาะเวลาทานยาแก้ปวดมันทำให้อาการปวดมันหนักขึ้นกว่าเดิมมีอาการใจสั่นเล็กน้อยและพอเอามือกดมันเจ็บยิ่งกว่าเดิมค่ะ@(หนูมีอาการปวดหัวข้างเดียวด้วยก็เลยต้องทานยาแก้ปวดเพราะมันปวดทั้งซีกเลย)@ แบบนี้เป็นอะไรมั้ยค่ะตอนแรกหนูคิดว่าเป็นกรดไหลย้อนแต่ไม่แน่ใจค่ะ อาการที่เป็น เป็นมานานแล้วค่ะไม่มีช่วงเวลาที่แน่นอนแต่ก็คิดมาตลอดว่าแค่เป็นกรดไหลย้อน หนูเคยเปนตอนขับรถด้วยค่ะจนต้องจอดรถเพราะขับต่อไม่ได้
ตอบโดยแพทย์ที่มีใบอนุญาต (คำตอบนี้เป็นการให้คำแนะนำเบื้องต้น ไม่สามารถแทนการวินิจฉัยโรคหรือการรักษา คุณควรพบแพทย์เพื่อรับการตรวจหากมีอาการน่ากังวล)