ฉันเป็นซึมเศร้า ตอนนี้ฉันไม่ได้ทานยา และไม่ได้รับการบำบัดต่อ เพราะฉันคิดจะควบคุมด้วยจิตใจของฉันเอง แต่แล้วเมื่อฉันมาเจอปัญหาภายในครอบครัว ฉันก็กลับมาอ่อนแอและร้องไห้บ่อยๆ เศร้าเครียด คิดมากเหมือนเดิม ฉันไม่กล้าบอกเรื่องนี้กับสามีของฉัน เพราะฉันกลัวว่าเขาจะบอกว่าฉันงี่เง่า เวลาที่ฉันเครียดฉันร้องไห้ฉันไม่ไม่โอเค บอกว่าฉันปัญญาอ่อน ฉันควรทำยังไงต่อไปดี

สวัสดีครับ
โรคซึมเศร้านั้นเป็นโรคที่เกิดจากการทำงานที่ผิดปกติของสารเคมีในสมองทำให้เกิดอารมณ์ที่เปลี่ยนแปลงไปโดยที่ไม่สามารถควบคุมได้ และมักไม่หายเองถ้าหากไม่ได้รับประทานยาเพื่อปรับการทำงานของสารเคมีในสมองครับ

การที่โรคซึมเศร้าไม่หายเองนั้นไม่ได้เกิดจากการที่คุณอ่อนแอ แกล้งทำ หรือเป็นบ้า แต่เป็นผลมาจากตังโรคที่ทำให้สารเคมีในสมองผิดปกติไปตามที่หมอได้พูดถึงในตอนแรกครับ

ในกรณีนี้หมอแนะนำว่าควรกลับไปพบจิตแพทย์เพื่อตรวจประเมินอาการและให้การรักษาต่อเนื่องอีกครั้ง เพื่อที่อาการจะได้กลับมาดีขึ้นครับ โดยในครั้งนี้หมอแนะนำว่าควรมีการติดตามอาการกับจิตแพทย์อย่างสม่ำเสมอ เมื่อถึงเวลาที่เหมาะสมแพทย์จึงจะพิจารณาเรื่องการหยุดยาให้ ไม่ควรหยุดรับประทานยาเองครับ

สวัสดีครับ

อย่างแรกเลยที่อยากจะบอกก็คือคุณไม่ได้ผิด หรือปัญญาอ่อนนะครับที่มีความรู้สึกแบบที่คุณเล่ามาเกิดขึ้นกับคุณ แต่หากคุณคิดว่าการบอกสามีของคุณจะทำให้มันแย่ลง ในเบื้องต้นก็สามารถจะเก็บสิ่งเหล่านี้ไว้ก่อนได้ครับและลองเข้ารับการช่วยเหลือจากจิตแพทย์หรือนักจิตวิทยาอีกครั้ง เนื่องจากตอนนี้คุณอาจจะกำลังไม่แข็งแรง และอาจจะต้องการความช่วยเหลือจากผู้อื่นบ้าง ซึ่งไม่ใช่เรื่องน่าอายนะครับ กับการที่เราจะกลับไปรับการรักษา อาจจะเป็นช่วงระยะเวลาหนึ่งไม่นานซึ่งก็ต้องอยู่ในดุลยพินิจของหมอ

นอกจากการเข้าพบกับผู้เชี่ยวชาญแล้ว การบริหารจัดการกับความเครียดหรือการดูแลตนเองก็เป็นสิ่งที่สำคัญมากเช่นกัน การทานอาหารหรือการนอนหลับที่เพียงพอจะมีส่วนในการควบคุมอารมณ์ และในเบื้องต้นอยากให้ลองใช้เวลาให้กับตัวเราเองเพื่อทำกิจกรรมที่ชอบทำหรือทำแล้วมีความสุขโดยอาจจะเป็นในเรื่องของ การออกกำลังกาย การดูหนัง ฟังเพลง ก็ได้ครับ สิ่งสำคัญก็คือให้เวลาตนเองได้พักผ่อนจิตใจ และดูแลตนเองได้อย่างเต็มที่ การเปลี่ยนแปลงอาจจะเกิดขึ้นแบบค่อยเป็นค่อยไปนะครับ ซึ่งสิ่งเหล่านี้อาจจะช่วยในเรื่องของการปรับอารมณ์ของตัวคุณได้ หรืออาจจะช่วยให้อารมณ์เศร้าเหล่านี้บรรเทาลงไปได้ครับ

สุดท้ายนี้ขอเป็นกำลังใจให้คุณผ่านพ้นช่วงเวลาตรงนี้นะครับ และหากมีคำถามเพิ่มเติมอะไรก็สามารถสอบถามมาได้นะครับ

ในกรณีที่ต้องเจอกับความเครียดซ้ำๆ ไม่สามารถจัดการกับปัญหานั้นได้ อาการของโรคซึมเศร้าที่เคยเป็นอยู่เดิมสามารถกำเริบซ้ำได้ค่ะ ในกรณีของคุณ อยากแนะนำให้กลับไปพบจิตแพทย์เพื่อเริ่มต้นรักษาใหม่นะคะ ตอนนี้ใครจะคิดอย่างไรก็ให้เขาคิดไป แต่ตัวคุณเองต้องรู้ตัวว่าตอนนี้มีอาการผิดปกติ ส่งผลกระทบต่อการใช้ชีวิต ก็ต้องได้รับการรักษา
ซึมเศร้าสามารถรักษาให้อาการดีขึ้นได้ด้วยการใช้ยาร่วมกับการทำจิตบำบัดตามสภาพปัญหาของผู้ป่วยแต่ละรายนะคะ และคนในครอบครัวจะต้องมีส่วนร่วมในการดูแลผู้ป่วยซึมเศร้าด้วย ตรงนี้หากคุณมีความคับข้องใจ น้อยใจในสิ่งที่สามีคิดกับคุณแง่ลบ คุณสามารถเล่าให้จิตแพทย์ฟังได้เลยนะคะ คุณหมอจะได้ประเมินปัญหา วางแผนการบำบัดที่เหมาะสม ปรับทัศนะคติและเปิดมุมมองคนในครอบครัวให้เข้าใจอาการและได้ร่วมมือในการรักษาค่ะ

สิ่งสำคัญ เมื่ออยู่ระหว่างการรักษาต้องทานยาอย่างสม่ำเสมอ ไม่ปรับยา หรือหยุดยาเอง และความคิดที่บอกว่าจะควบคุมจิตใจอารมณ์ด้วยตนเองโดยไม่ต้องใช้ยานั้นถือว่าเป็นความคิดที่ไม่เหมาะสม ซึ่งการคิดแบบนี้จะทำให้โรเรื้อรังและพัฒนารุนแรงมากขึ้นยากแก่การรักษานะคะ นอกจากนั้นควรหมั่นสังเกตอาการ หากเริ่มมีอาการผิดปกติหรือ อาการไม่ดีขึ้นควรไปพบแพทย์ก่อนนัดเพื่อปรับยาให้เหมาะสมค่ะ

การเป็นโรคซึมเศร้านั้นเป็นความเจ็บป่วยที่เกิดขึ้นจริง และจะส่งผลกระทบต่อการใช้ชีวิต ความคิดในแง่ลบที่เกิดขึ้นตามมาได้ครับ

หมอเชื่อว่าปัญหาที่เกิดขึ้นในครอบครัวของคุณนั้นเป็นเรื่องที่เกิดขึ้นจริงและส่งผลกระทบต่อสภาพจิตใจของคุณอยู่ในขณะนี้ครับ แต่หมอก็เชื่อเช่นกันว่าถ้าหากสภาพอารมณ์ที่เกิดขึ้นจากโรคซึมเศร้าของคุณดีขึ้น ความทุกข์ทรมานที่เกิดขึ้นก็ก็น่าจะบรรเทาลงได้มากกว่านี้

หมอแนะนำว่าในตอนนี้ควรกลับไปพบจิตแพทย์เพื่อช่วยประเมินอาการและให้การรักษาผ่ทนการใช้ยาหรือการทำจิตบำบัดเพิ่มเติมก่อน เมื่อโรคซึมเศร้าดีขึ้น อารมณ์ของคุณก็จะดีขึ้น และก็อาจช่วยให้คุณมองเห็นทางออกของปัญหาได้ดีขึ้นครับ