June 16, 2018 14:33
ตอบโดย
จินตนา แสงโพธิ์ (เภสัชกร)
ผู้ใช้บางรายที่รับประทานยาคุมอาจมีผลให้น้ำหนักเปลี่ยนแปลงได้ค่ะ ผลอาจแตกต่างกันไปตามชนิดและปริมาณของฮอร์โมนในยาคุมแต่ละยี่ห้อ และการตอบสนองของผู้ใช้แต่ละราย
แต่ยาทุกชนิดมีผลข้างเคียงทั้งสิ้นนะคะ การใช้ยาคุมกำเนิดเพียงเพื่อหวังผลให้น้ำหนักเพิ่ม เป็นการใช้ที่ไม่เหมาะสมและเป็นการแก้ไขที่ไม่ตรงจุดค่ะ รวมถึงยาคุมที่อาจมีผลให้น้ำหนักเพิ่ม หลาย ๆ ตัวมักทำให้เกิดสิว หน้ามัน และขนดกด้วยนะคะ
ดังนั้น การที่มีน้ำหนักน้อย ก็ต้องดูว่ามีการรับประทานอาหารเยอะกว่าการใช้พลังงานหรือไม่ ถ้าหากรับประทานอาหารเยอะมาก แต่น้ำหนักไม่เพิ่มเลย แนะนำให้ไปพบแพทย์เพื่อตรวจเพิ่มเติมว่าเกิดจากสาเหตุใด เพื่อจะพิจารณาการแก้ไขที่เหมาะสมดีกว่านะคะ
ตอบโดยแพทย์ที่มีใบอนุญาต คำตอบของแพทย์เป็นการให้ความรู้และคำแนะนำเบื้องต้น ไม่สามารถแทนการวินิจฉัยโรค หรือการรักษา คุณควรพบแพทย์ที่สถานพยาบาลเพื่อให้แพทย์ตรวจทุกครั้ง หากคุณมีเหตุฉุกเฉินกรุณาโทรแจ้ง 1669
ปรึกษาเภสัช สั่งยา ฟรีค่าส่งทั่วประเทศ*
แชทกับเภสัชกรฟรี! 9 โมงเช้าถึงเที่ยงคืน พร้อมรับส่วนลดค่ายา 5% HDmall ออกค่าส่งให้สูงสุด 40 บาท
ตอบโดย
พิศุทธิกาญจญ์ รังคกูลนุวัฒน์ (พญ.)
คนไข้ที่ทีอาการคือ ผอม นอกจากเรื่องอาหาร วิถีชีวิตประจำวันแล้ว ยังต้องดูเรื่องโรคร่วมอย่างอื่นที่อาจเป็นสาเหตุของความผอมด้วยค่ะ
โรคที่เป็นสาเหตุของความผอมที่อยากแนะนำให้คนไข้สังเกตและตรวจเพิ่มเติม ได้แก่
1. โรคไทรอยด์ สูงค่ะ คนไข้อาจมีอาการมือสั่น ใจสั่น เหงื่ออกมาก ความดันโลหิต สูง บางคน ถ่ายเหลวบ่อย ตาโปน บางคนอาจมีคอโตได้ค่ะ คนไข้จะกินจุ แต่น้ำหนักตัวน้อยค่ะ
2.โรคติดเชื้อ ต่างๆ เช่น
การติดเชื้อ HIV คนไข้ที่มีความเสี่ยงกับโรคนั้นๆ เช่น ผู้มีเพศสัมพันธ์โดยไม่ได้ป้องกัน
โรคตับ โรคไต เรื้อรัง
วัณโรค ต่างๆ ได้แก่ วัณโรคปอด วัณโรคที่ต่อมน้ำเหลือง วัณโรคที่กระดูก ทำให้คนไข้ผอมลง บางคนทีอาการไอเรื้อรัง ปวดตามตัว ไข้ต่ำๆเกือบทุกวัน หรือมีประวัติสัมผัสผู้ป่วยวัณโรคมาก่อนค่ะ
พยาธิต่างๆ ทำให้มีอาการ ถ่ายเหลว เรื้อรัง
3.โรคเบาหวาน ระยะแรกๆ ผู้ป่วยอาจมีอาการ หิวน้ำบ่อย ปัสสาวะบ่อย กินจุ น้ำหนักลดค่ะ ถ้าเป็นแบบนี้ควรไปตรวจน้ำตาลในเลือดค่ะ
4. โรคความผิดปกติของการดูดซึมสารอาหารในลำไส้ เช่น เคยผ่าตัดมาก่อน ทำให้ลำไส้สั้นลง มีอาการถ่ายเหลวเรื้อรัง เป็นต้น
5. โรคมะเร็งต่างๆ น้ำหนักลดอาจเป็นอาการไม่เฉพาะเจาะจง แต่ถ้ามีอาการอื่นมาก่อน ร่วมกับมีน้ำหนักลดอย่างรวดเร็วเป็นหลักเดือน ก็จะทำให้นึกถึง โรคมะเร็ง ได้ค่ะ
6.โรคทางจิตใจ เช่น anorexia , โรคซึมเศร้า
7.ยาและอาหารเสริมต่างๆที่อ้างสรรพคุณลดความอ้วน ผลิตภัณฑ์ลดน้ำหนักหลายชนิด ไม่ได้มีการทำวิจัยหรือมีผลการวิจัยยืนยันแน่นอนว่าปลอดภัย รวมถึงยาที่รับประทานต่างๆ อาจผสมสารที่เป็นอันตรายต่อร่างกาย โดยหวังเอาผลข้างเคียงของยานั้นมาใช้ในการลดน้ำหนัก ตัวอย่างเช่น ฮอร์โมนไทรอยด์ ยาขับปัสสาวะ ยาถ่าย ยาติตเวชต่างๆ รวมไปถึงยาแอมเฟตามีน ซึ่งยาเหล่านี้ สามารถลดน้ำหนักได้จริง แต่จะมาพร้อมผลข้างเคียงอื่นๆอีกมากมาย บางทีร้ายแรงถึงชีวิต เช่น ใจสั่น เกลือแร่ผิดปกติอย่างมาก กระดูกพรุน หัวใจวาย ติดยา อ่อนเพลีย นอนไม่หลับ มีความผิดปกติของสารสื่อประสาท สุญเสียการทำงานของสมดุลร่างกายอย่างมากคะ
8.การรับประทานอาหารที่ไม่ถูกสัดส่วน/ไม่เพียงพอ หลังจากที่ได้ตรวจร่างกาย ซักประวัติ ตรวจเลือด เพื่อยกเว้นสาเหตุทางกายที่เป็นไปได้ทั้งหมดของความผอมที่ผิดปกตินั้น จึงจะเข้าสู่การปรับการกินอาหารให้เหมาะสมค่ะ ได้แก่ การทานอาหารให้ตรวเวลา ครบสามมื้อ อาหารอาจเน้นที่พลังงานสูง ไม่ทานของที่ไม่มีประโยชน์ เช่น ขนมซอง น้ำอัดลม เป็นต้น อาจแบ่งเป็นมื้อเล็กๆ ทานอาหารที่มีคุณค่า เช่น ขนมไทย ซาลาเปา นม เป็นต้นค่ะ
ดังนั้น หมอแนะนำให้คนไข้สังเกตตนเองว่ามีอาการที่าจเป็นโรคที่นำมาซึ่งความผอมผิดปกติหรือไม่นะคะ ถ้ามีคนไข้ควรไปพบแพทย์เพื่อตรวจร่างกายและหารสาเหตุ จะได้รักษาให้ตรงจุดค่ะ
ตอบโดยแพทย์ที่มีใบอนุญาต คำตอบของแพทย์เป็นการให้ความรู้และคำแนะนำเบื้องต้น ไม่สามารถแทนการวินิจฉัยโรค หรือการรักษา คุณควรพบแพทย์ที่สถานพยาบาลเพื่อให้แพทย์ตรวจทุกครั้ง หากคุณมีเหตุฉุกเฉินกรุณาโทรแจ้ง 1669
คุณหมอค่ะ หนูเป็นคนที่มีน้ำหนักน้อยค่ะ กินยาบำรุงหรือยาที่หมอให้มาน้ำหนักก็ไม่เพิ่มขึ้นเลยค่ะ อยากทราบว่าถ้ากินยาคุมจะสามารถทำให้น้ำหนักเพิ่มขึ้นได้มั้ยค่ะ หนูเหมือนมีฮอร์โมนของเพศชายมากกว่าเพศหญิงค่ะ
ตอบโดยแพทย์ที่มีใบอนุญาต (คำตอบนี้เป็นการให้คำแนะนำเบื้องต้น ไม่สามารถแทนการวินิจฉัยโรคหรือการรักษา คุณควรพบแพทย์เพื่อรับการตรวจหากมีอาการน่ากังวล)