เป็นเคสของแฟนนะครับ พอดีแฟนผมไปรับเลือดที่ รพ. แห่งหนึ่ง (แฟนผมกรุ๊ป A) โดยได้ทำการแจ้งซื้อเลือดเกรด A กับคุณหมอไว้ เหตุการณ์คือ มีผู้ป่วยอีกคนอยู่ร่วมห้องด้วยทราบภายหลัง ผู้ป่วยคนนั้นรับเลือด 3 ถุง (กรุ๊ป o) โดย 2 ถุงเป็นถุงเลือดที่รับบริจาคตรวจแล้วไม่พบเชื่อ อีก 1 ถุงเป็นเลือดของผู้ป่วยคนนั้นเอง เหตุการณ์ คือ หลังจากแฟนผมได้รับเลือดที่ซื้อเกรด A แล้ว ชำระค่าใช้จ่ายหมื่นกว่าบาท กลับบ้านปกติ อีก 1 อาทิตย์ต่อมา คุณหมอติดต่อมาให้เข้าไปตรวจเลือดอีกครั้ง ซึ่งทราบภายหลังว่าผู้ป่วยอีกคนที่ร่วมห้องด้วยตรวจพบเชื้อ HIV ซึ่งแฟนผมตรวจพบผลเลือดปกติ คุณหมอ พยาบาลดูโล่งอก แล้วได้กล่าว โค้งคำนับขอโทษ เพราะถ้าเกิดอะไรผิดพลาดขึ้นมาคงเป็นเรื่องใหญ่แน่นอน อยากจะสอบถามว่า 1. ทำไมทาง รพ. ถึงโทรมาให้ตรวจเลือดซ้ำครับ ทั้งๆที่หลังจากยืนยันแล้วผู้ป่วยร่วมห้องอีกคนมีเชื้อ หรืออาจเกิดความผิดพลาดเรื่องให้เลือดผู้ป่วยผิดคนได้ ทั้งๆที่เลือดคนละกรุ๊ปกันนะครับ 2. สมมุติ ถ้าเกิดความผิดพลาดจริงๆ แฟนผมรับเลือดจากผู้ติดเชื้อโดยตรง ผ่านไป 1 อาทิตย์ที่คุณหมอให้เข้าไปตรวจเลือด รู้ผลได้เลยหรอครับ ว่าแฟนผมได้รับเชื้อ HIV เลย? กรณีปกติถ้ารู้ว่ารับเลือด HIV เข้าสู้ร่างกายโดยตรง ผู้รับเลือดจะตรวจพบเชื้อเลยหรอครับ? เท่าที่ทราบ คือ มันมี window period ที่ตรวจไม่เจอหรือป่าวครับ 3. จากที่แฟนเล่ามา เหมือนคุณหมอ พยาบาลโค้งคำนับ โล่งอก ซื้อผลใบก็ให้ดูเป็น negative ผมควรจะสบายใจเรื่องแฟนยังครับ หรือควรจะให้ไปตรวจเลือดซ้ำดีครับ ถ้าตรวจ ควรตรวจตอนระยะเวลาผ่านไปกี่วันครับ ปล. คุณหมอเหมือนไม่พอใจด้วยที่ผู้ป่วยร่วมห้องอีกคนเคยบริจาคเลือด เหมือนมั่นใจด้วยว่าตัวเองมีเชื้อ แล้วยังมาบริจาคเลือดครับ