เพิ่งได้รับผลการตรวจมะเร็งปากมดลูกมาค่ะ ผลปรากฏว่า มีการอักเสบของปากมดลูก ซึ่งทำให้เกิดอาการตกขาวมากผิดปกติ และขณะมีเพศสัมพันธุ์ก็มีอาการแสบร้อนท่ช่องคลอดค่ะ ไม่ทราบว่าควรรับประทานยาตัวไหนดีคะ

สวัสดีครับ สำหรับ การอักเสบที่ปากมดลูก แนะนำว่าควรรักษาดังนี้
1.กินพารา ยาแก้ปวดต่างๆ
2.กินยาฆ่าเชื้อเช่น doxycycine ,metronidazole, เป็นต้นครับ
3.งดมีเพศสัมพันธ์ไปก่อน
4.ดูแลความสะอาดครับ

ถ้าทำตามนี้อาการจะดีขึ้นได้ครับ

สวัสดีครับ
แนะนำให้กลับไปพบแพทย์ครับ เป็นการดีที่คนไข้ ได้ทราบผลการคัดกรองนี้ เพื่อจะได้รักษาโดยเร็วครับ

เนื่อวจากปากมดลูกอักเสบ สามารถเกิดได้จากหลายสาเหตุครับ เช่น
- การติดเชื้อ โดยเฉพาะ โรคติดต่อทางเพศสัมพันธต่างๆครับ ซึ่งการรักษาใช้ยาแตกต่างกันตามแต่ละชนิดของเชื้อครับ ตัวอย่างเชื้อที่แตกค่างกัน เช่น trichomonas , gonorrhea หรือ หนองใน , chlamydia เป็นต้น ใช้ยารักษาแตกต่างกันครับ ไม่สามารถทานยาชนิดใดชนิดหนึ่ง แล้วเหมารวมรักษาได้ครับ

**ดังนั่น การรับประทานยา doxycyclin หรือ metronidazole โดยไม่มีหลักฐานการติดเชื้ ที่แน่ชัด นอกจากจะไม่รักษาโรคแล้ว ยังเกิดผลข้างเคียงจากตัวยา และ ในอนาคต หากติดเชื้อจริงๆ จะทำให้ดื้อยา และไม่มียารักษาโรคอีกครับ
**จึงไม่แนะนำให้ซื้อยาฆ่าเชื้อที่ไม่ตรวกับโรครับประทานเอง ก่อนพบแพทย์ครับ**

****ข้อนี้สำคัญมากนะครับ****

- การทีเพศสัมพันธ์ที่รุนแรง บาดแผลต่างๆ ครับ
-ภาวะเริิ่ทต้นของมะเร็ง
แนะนำว่า กรณีนี้ อาจต้องมีการสืบค้นเพิ่ทเติมก่อน จึงจะให้ยาได้อย่างเหมาะสมที่สุดครับ

อย่าเพิ่งตกใจกับผลของการตรวจมะเร็งปากมดลูกที่แจ้งว่าผิดปกตินะค่ะ ผลการตรวจมะเร็งปากมดลูกผิดปกติไม่ได้หมายความว่าจะเป็นมะเร็งทุกราย'ค่ะ

สาเหตุของความผิดปกติของปากมดลูกจากผลการตรวจคัดกรอง อาจเกิดจาก
ภาวะปากมดลูกอักเสบ ที่เกิดจากการติดเชื้อรา แบคทีเรีย หรือเชื้อพยาธิในช่องคลอด
ภาวะการติดเชื้อไวรัสก่อมะเร็งปากมดลูก - HPV พบได้บ่อย ส่วนใหญ่ไม่มีอาการผิดปกติ แต่จะตรวจพบก็ต่อเมื่อมีการตรวจเช็คมะเร็งปากมดลูกเท่านั้น บางรายอาจจะทำให้เกิดรอยโรคเป็นหูดหงอนไก่หรือบางรายเชื้อไวรัสนี้อาจจะกระตุ้นเซลล์เยื่อบุปากมดลูกให้มีการแบ่งตัวผิดปกติ และกลายเป็นมะเร็งได้ในอนาคต
เซลล์ปากมดลูกผิดปกติ เป็นรอยโรคระยะก่อนเป็นมะเร็งปากมดลูก เซลล์ผิดปกติเหล่านี้ ยังไม่ได้เป็นเซลล์มะเร็ง แต่ถ้าปล่อยทิ้งไว้ไม่ได้ทำการตรวจรักษา อาจจะกลายเป็นมะเร็งได้ในภายหลัง
ภาวะช่องคลอดแห้งการขาดฮอร์โมนเพศ พบบ่อยในวัยหมดประจำเดือน ทำให้ผนังเยื่อบุปากมดลูกบางลง แห้งและอักเสบ

ผลการตรวจพบว่ามีการอักเสบ นั้น หากไม่มีอาการอะไรผิดปกติ เช่น มีตกขาวปริมาณมาก ตกขาวมีกลิ่นเหม็น แสบหรือคันในช่องคลอด ปวดท้องน้อย เป็นต้น ก็ไม่จำเป็นต้องทำอะไร ทั้งนี้ อาจเกิดจากเชื้อแบคทีเรียในช่องคลอดมีปริมาณมากขึ้นจากปัจจัยบางอย่าง จึงทำให้มีเม็ดเลือดขาวในช่องคลอดเพิ่มมากขึ้น แต่หากไม่ได้ทำให้เกิดอาการอะไร แสดงว่าเชื้อเหล่านั้น ยังไม่ได้ก่อให้เกิดโรคอะไรค่ะ เชื้อแบคทีเรียและการอักเสบเหล่านี้ในที่สุดก็จะหายไปได้เอง

แต่หากมีอาการผิดปกติต่างๆ ที่กล่าวไป และเป็นอยู่ต่อเนื่อง แสดงว่าเชื้อแบคทีเรียได้ก่อให้เกิดโรค จึงทำให้เกิดอาการตามมา ซึ่งในกรณีนี้ ควรไปพบสูติ-นรีแพทย์เพื่อตรวจรักษาค่ะ

ถ้ามีแค่การอักเสบ ไม่พบโรคติดเชื้อ กินยาต้านการอักเสบ พวก NSAID งดมีเพศสัมพันธ์ และดูแลความสะอาดให้ดีก็พอครับ แล้วอาการจะค่อยๆดีขึ้นครับ

ถ้าผลเป็นการอักเสบ แต่ไม่มีอาการผิดปกติอะไรก็ไม่จำเป็นต้องทานยาค่ะ การทานยาฆ่าเชื้อส่งผลทำลายเชื้อประจำถิ่นที่จะคอยป้องกันเชื้อโรคมากกว่าค่ะ