June 12, 2018 01:01
ตอบโดย
จินตนา แสงโพธิ์ (เภสัชกร)
ยาดังกล่าวจะไปทำหน้าที่ปรับเยื่อบุมดลูกค่ะ เมื่อใช้จนครบขนาดที่คุณหมอให้แล้ว ต่อมาก็จะเกิดการหลุดลอกของเยื่อบุมดลูก ทำให้มีประจำเดือนนั่นเอง ซึ่งมักเกิดขึ้นหลังใช้ยาหมดไปแล้ว 2 - 3 วันค่ะ
เมื่อใช้ยาไปหลาย ๆ วัน ผู้ใช้บางรายอาจพบอาการในลักษณะของอาการก่อนมีประจำเดือนได้ค่ะ เช่น ปวดหน่วงท้องน้อย ท้องอืด เจ็บคัดตึงเต้านม ซึ่งจะหายเองได้เมื่อประจำเดือนมาแล้วนะคะ
ดังนั้น สามารถใช้ยาต่อไปจนครบขนาดได้ค่ะ หากอาการปวดหน่วงไม่รุนแรงมากก็ไม่จำเป็นต้องรักษาใด ๆ
แต่ถ้าอาการปวดมีความรุนแรงมาก หรือมีอาการผิดปกติอื่น ๆ ร่วมด้วย เช่น ตกขาวปริมาณมากผิดปกติ, ตกขาวมีสีผิดปกติ, มีกลิ่นเหม็นคาวหรือกลิ่นรุนแรง, แสบหรือคันที่ช่องคลอด แนะนำให้ไปพบสูตินรีแพทย์เพื่อตรวจเพิ่มเติม และพิจารณาการรักษาตามความเหมาะสมนะคะ
ตอบโดยแพทย์ที่มีใบอนุญาต คำตอบของแพทย์เป็นการให้ความรู้และคำแนะนำเบื้องต้น ไม่สามารถแทนการวินิจฉัยโรค หรือการรักษา คุณควรพบแพทย์ที่สถานพยาบาลเพื่อให้แพทย์ตรวจทุกครั้ง หากคุณมีเหตุฉุกเฉินกรุณาโทรแจ้ง 1669
ทำเลสิกวันนี้ ที่คลินิกหรือรพ. ใกล้บ้านคุณ เริ่มต้นที่ 25,500 บาท ลดสูงสุด 35%!!
จองผ่าน HD ประหยัดกว่า / จ่ายทีหลังได้ / ผ่อน 0% ได้ / พร้อมแอดมินคอยตอบทุกคำถาม!
สวัสดีค่ะ อยากสอบถามอาการ คือดิฉันมีปัญหาเรื่องฮอร์โมนผิดปกติ ตอนนี้กำลังอยู่ในช่วงรักษา ทานยาที่คุณหมอสั่งเพื่อปรับฮอร์โมนอยู่ค่ะ ตอนนี้ได้ยามาทาน รอบ 2 แล้ว เป็นยาเม็ดขาว เม็ดเล็ก ทาน 2 มื้อ เช้า/เย็นประมาณ 10 วันค่ะ(ตอนนี้ทานได้ 4 วันแล้วค่ะ) พอดีคลินิกกับบ้านอยู่ไกลมากเลยอยากมาสอบถามผ่านเว็บก่อนค่ะ ระหว่างทานยามีอาการปวดท้องหน่วงๆ แต่ไม่ได้ถึงขั้นปวดมาก ปวดหน่วงๆ เป็นระยะๆ บริเวณท้องน้อย ไม่ทราบว่าเป็นอาการปกติของคนที่กำลังกินยาปรับฮอร์โมนหรือว่าไม่ปกติค่ะ ควรกลับไปหาหมอที่คลินิกหรือว่าทำอย่างไรดีค่ะขอบคุณล่วงหน้าสำหรับคำตอบนะค่ะ
ตอบโดยแพทย์ที่มีใบอนุญาต (คำตอบนี้เป็นการให้คำแนะนำเบื้องต้น ไม่สามารถแทนการวินิจฉัยโรคหรือการรักษา คุณควรพบแพทย์เพื่อรับการตรวจหากมีอาการน่ากังวล)