สวัสดีค่ะหมอ คือหนูประจำเดือนมาไม่ปกติค่ะ มีประจำเดือนครั้งแรกตอนประมาณ ป.5 (อายุประมาณ 11-12) มาประมาณ3 วัน แล้วมันก็ไม่มาอีกจนหนูเข้า ม.1 (อายุประมาณ 13) มันก็มาประมาณ 3 วัน แล้วก็เว้นช่วง ยาวจนหนูอยู่ ปี 1 (อายุประมาณ 18) ตอนปี1 ที่ประจำเดือนมาก็เพราะว่าเพื่อนที่เป็นกระเทยบอกให้กินยาคุมเพื่อปรับฮอลโมน หนูกินยาคุมไปประมาณ 6 เดือน ภายใน6เดือนที่กินยาคุม ประจำเดือนหนูมาตรงวัน นะคะ แต่พอคิดว่าเรากินยาคุมมานานมากแล้วคิดว่าฮอลโมนน่าจะปรับแล้ว หนูเลยหยุดยาคุม พอหยุดยาคุมแล้วประจำเดือนมันก็ไม่มา พอกินยาคุมมันก็มา ตอนนี้หนูไม้ได้กินยาคุมแล้วค่ะ ตอนนี้หนูอายุ 22 แล้วมันก็ยังมาไม่ปกติเหมือนเดิม บางทีมีปวดเอวปวดท้องน้อยเหมือนจะมีประจำเดือนแต่ก็ไม่มี เลยอยากถามหมอว่าอาการแบบหนูต้องรักษายังไง หนูไม่อยากกินยาคุมแล้ว บอกหนูหน่อยนะคะ

สวัสดีครับ
โดยปกติแล้วผู้หญิงทุกคนจะต้องมีประจำเดือนมาในทุกๆเดือนในช่วง 21-35 วันครับ แต่อาจมีในช่วง 1-2 ปีแรกของการมีประจำเดือนที่ประจำเดือนอาจจะยังมาไม่สม่ำเสมอได้

เนื่องจากในขณะนี้คุณอายุ 22 ปีแล้ว การที่ประจำเดือนขาดหายไปนานครั้งละหลายเดือนจนถึงเป็นปีจึงถือว่ามีความผิดปกติ ซึ่งควรได้รับการตรวจหาสาเหตุครับ

สาเหตุที่ทำให้ประจำเดือนขาดหายไปเป็นเวลานานนั้นอาจเกิดได้จาก
- ปัญหาการตกไข่ที่ไม่สม่ำเสมอ
- มีปัญหาการผลิตฮอร์โมนที่เกี่ยวข้องกับการมีประจำเดือนในร่างกาย เช่น จากรังไข่ จากต่อมใต้สมอง
- มีความผิดปกติของการทำงานของต่อมไทรอยด์
- มีความผิดปกติของโครงสร้างของรังไข่หรือมดลูก เช่น ภาวะมีถุงน้ำหลายใบในรังไข่(PCOS)

หมอแนะนำให้ไปพบแพทย์นรีเวชเพื่อตรวจภายใน อัลตราซาวด์ รวมถึงอาจต้องมีการตรวจวัดระดับฮอร์โมนในเลือดเพื่อหาสาเหตุของอาการขาดประจำเดือนครับ เมื่อทราบสาเหตุจึงจะได้ให้การรักษาได้อย่างเหมาะสม

การตรวจหาสาเหตุของการขาดประจำเดือนนั้นสามารถใช้สิทธิประกันสังคมในการตรวจรักษาได้ครับ สามารถไปพบแพทย์นรีเวชในโรงพยาบาลตามสิทธิประกันสังคมเพื่อตรวจและให้การรักษาได้เลยครับ