July 23, 2018 12:58
ตอบโดย
พิศุทธิกาญจญ์ รังคกูลนุวัฒน์ (พญ.)
สวัสดีค่ะ โรคลิ้นหัวใจรั่ว มีหลายสาเหตุค่ะ แบ่งเป็นสองสาเหตุใหญ่ๆ คือ
1.ลิ้นหัวใจรั่วแต่กำเนิด เช่น รูรั่วต่างๆในหัวใจ ความผิดปกติทางกรรมพันธ์ุ์ คนไข้อาจมีอาการหัวใจวาย เหนื่อยง่าย หรือ เขียว มาแต่เด็ก
2.ลิ้นหัวใจรั่วที่มีอาการตอนโตเป็นผู้ใหญ่ ได้แก่ การติดเชื้อ เช่น โรคหัวใจรูมาติก การติดเชื้อที่กล้ามเนื้อหัวใจ เป็นต้น
ทั้งนี้ การติดตามเกี่ยวกับหัวใจรั่ว ต้องหาสาเหตุอย่างถึ่ถ้วน และตรวจติดตามเป็นระยะๆอย่างสม่ำเสมอค่ะ เพื่อดูว่ามีอาการรั่วมากขึ้นไหม จำเป็นต้องผ่าตัด หรือให้ยาเพิ่ทเติมไหม เป็นต้น ทั้งนี้ รายละเอียดการตรวจแต่ละครั้ง อาจไม่เหมือนกัน แนะนำว่าให้คนไข้ ปรึกษากับคุณหมอเจ้าของไข้ที่ตรวจ เพื่อความเข้าใจที่ตรงกันนะคะ เพื่อร่วมกันวางแผนการรักษาต่อไปค่ะ
ตอบโดยแพทย์ที่มีใบอนุญาต คำตอบของแพทย์เป็นการให้ความรู้และคำแนะนำเบื้องต้น ไม่สามารถแทนการวินิจฉัยโรค หรือการรักษา คุณควรพบแพทย์ที่สถานพยาบาลเพื่อให้แพทย์ตรวจทุกครั้ง หากคุณมีเหตุฉุกเฉินกรุณาโทรแจ้ง 1669
ปรึกษาเภสัช สั่งยา ฟรีค่าส่งทั่วประเทศ*
แชทกับเภสัชกรฟรี! 9 โมงเช้าถึงเที่ยงคืน พร้อมรับส่วนลดค่ายา 5% HDmall ออกค่าส่งให้สูงสุด 40 บาท
หนูเป็นโรคลิ้นหัวใจรั่วแล้วหรอค่ะ ถึงได้ติดตามดูอาการ
ตอบโดย
พิศุทธิกาญจญ์ รังคกูลนุวัฒน์ (พญ.)
จะทราบว่าเป็นิลิ้นหัวใจรั่วต้องตรวจเพิ่มเติม เพื่อยืนยันหลายอย่างค่ะ จึงจะวินิจฉัยได้ แนะนำว่าให้คนไข้ ปรึกษากับคุณหมอเจ้าของไข้ที่ตรวจ เพื่อความเข้าใจที่ตรงกันนะคะ เพื่อร่วมกันวางแผนการรักษาต่อไปค่ะ
ตอบโดยแพทย์ที่มีใบอนุญาต คำตอบของแพทย์เป็นการให้ความรู้และคำแนะนำเบื้องต้น ไม่สามารถแทนการวินิจฉัยโรค หรือการรักษา คุณควรพบแพทย์ที่สถานพยาบาลเพื่อให้แพทย์ตรวจทุกครั้ง หากคุณมีเหตุฉุกเฉินกรุณาโทรแจ้ง 1669
หมดปัญหาเหงื่อออกมากที่มืออย่างถาวร รักษาแล้วมือแห้ง ชีวิตง่ายขึ้น!
จองผ่าน HD ประหยัดกว่า / เบิกประกันได้ / ผ่อน 0% ได้ / ปรึกษาหมอก่อนผ่าตัดได้ไม่จำกัดครั้ง
สวัสดีค่ะคุณหมอ หนูอยากทราบว่าหนูไปหาหมอครั้งแรกหมอบอกว่าสงสัยลิ้นหัวใจรั่ว แล้วนัดมาครั้งที่สองอีก แล้วก้อบอกเหมือนเดิมว่าลิ้นหัวใจผิดปกติ แล้วนัดครั้งที่สามอีกที่ยังไปถึงวันนัด หนูอยากทราบว่ามีเป็นโรคลิ้นหัวใจรั่วยังค่ะ หรือหมอแค่ไม่แน่ใจเฉยๆ ..ขอบคุณค่ะ..
ตอบโดยแพทย์ที่มีใบอนุญาต (คำตอบนี้เป็นการให้คำแนะนำเบื้องต้น ไม่สามารถแทนการวินิจฉัยโรคหรือการรักษา คุณควรพบแพทย์เพื่อรับการตรวจหากมีอาการน่ากังวล)