August 23, 2019 10:46
ตอบโดย
กันตณัฏฐ์
อยู่ตรีรักษ์ (แพทย์ทั่วไป)
(นพ.)
General physician
สวัสดีครับ
อาการหน้ามืดบ่อยๆนั้นอาจเกิดได้จากหลายสาเหตุครับ เช่น
- หัวใจเต้นผิดจังหวะ
- ความดันโลหิตต่ำ
- ภาวะโลหิตจาง
- ภาวะขาดน้ำ
- ความผิดปกติของฮอร์โมนในร่างกาย
- ภาวะน้ำตาลในเลือดต่ำ
- ความผิดปกติบางอย่างภายในสมอง
ในกรณีนี้หมอแนะนำว่าควรไปพบแพทย์เพื่อตรวจประเมินอาการเพิ่มเติมให้ทราบสาเหตุที่แน่ชัดก่อนเพื่อที่จะได้ให้การรักษาได้อย่างเหมาะสมครับ
ตอบโดยแพทย์ที่มีใบอนุญาต คำตอบของแพทย์เป็นการให้ความรู้และคำแนะนำเบื้องต้น ไม่สามารถแทนการวินิจฉัยโรค หรือการรักษา คุณควรพบแพทย์ที่สถานพยาบาลเพื่อให้แพทย์ตรวจทุกครั้ง หากคุณมีเหตุฉุกเฉินกรุณาโทรแจ้ง 1669
ทำเลสิกวันนี้ ที่คลินิกหรือรพ. ใกล้บ้านคุณ เริ่มต้นที่ 25,500 บาท ลดสูงสุด 35%!!
จองผ่าน HD ประหยัดกว่า / จ่ายทีหลังได้ / ผ่อน 0% ได้ / พร้อมแอดมินคอยตอบทุกคำถาม!
อาการหนาวสั่น หนาวสะบั้น มือชา เวลากลางคืนล่ะคะ เกิดจากสาเหตุใดได้บ้างคะ
ตอบโดย
นิธิวัฒน์ ตั้งชมพู (นพ.)
สวัสดีครับ
อาการหน้ามืดบ่อยๆ วูบ เวียนหัว มีหลายสาเหตุครับ
ตั้งแต่
-สาเหตุทางหัวใจ เช่น หัวใจเต้นผิดจังหวะ หัวใจเต้นช้า หัวใจเต้นเร็ว คนไข้อาจมีอาการหน้ามืด ใจสั่น เป็นลมได้บ่อยๆ หรือมีความดัยโลหิตสูง หรือต่ำมากกว่าปกติ ก็อาจทำให้มีอาการหน้ามืดได้เช่นกัน
-สาเหตุทางระบบประสาท คนไข้อาจมีอาการปวดหัว ตามัว มองเห็นภาพซ้อน หรือมีแขนขาอ่อนแรง ชาแขนขา เป็นต้น ซึ่งอาจทำให้ทีอาการชัก อาจเป็นชักเกร็งทั่งตัว ชักเหม่อ หมดสติ ก็เป็นได้ ซึ่ฝนอกจากต้องตรวจร่างกายทางระบบประสาทอย่างละเอียดแล้ว อาจต้องตรวจตาด้วยค่ะ เช่น ไม่ได้มีภาวะตาเอียง ตาสั่นหรือยาว เป็นต้น
-ระบบต่อมไร้ท่อ เช่น น้ำตาลต่ำ น้ำตาลสูงกว่าปกติ จากโรคประจำตัว เช่น เบาหวาน คนไข้อาจมีอาการปัสสาวะบ่อยมากจนหน้าทืดเป็นลม ,ภาวะไทรอยด์สุง (hyperthyroid) ในกรณีของ Hyperthyroid คนไข้อาจมีปัญหาร่วม เช่น เหงื่อออกมาก ใจสั่น ถ้าจะให้ชัดเจน คนไข้อาจมีตาโปนมากขึ้น น้ำหนักลด ถ่ายเหลวบ่อย เป็นต้นครับ
กรณีนี้แนะนำให้ไปตรวจร่างกายและไทรอยด์เพิ่มเติม
***ขอให้ระมัดระวังเรื่องการใช้ยาด้วยนะครับ ถ้ามีการใช้ยาที่ไม่ได้ปรึกษาแพทย์ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ยาลดน้ำหนัก มักผสมฮอร์โมนไทรอยด์ลงไป เพื่อหวังผลการลดน้ำหนัก อาจทำให้คนไข้มีอาการคล้ายๆไทรอยด์สุว ทำให้ฮอร์โมนแปรปรวน อันตรายถึวชีวิตครับ
-อาการโลหิตจางที่เป็นมากๆ อาจทำให้มีอาการหน้ามืดใจสั่นได้ค่ะ รวมถึง การเสียเลือดมากอื่นๆด้วย เช่น ประจำเดือนมามาก อุบัติเหตุที่ทำให้เลือดออกมากๆ ถ่ายเป็นเลือดมากๆ ทาลัสซีเมียที่เม็ดเลือดแดงแตกมาก เป็นต้น ดังนั้น หากมีอาการโลหิตจางแล้วมีอาการหน้าทืดใจสั่นร่วมด้วย ควรปรึกษาแพทย์เพื่อตรวจเลือดเพิ่ทเติม และอาจต้องได้รับเลือดครับ******
-สาเหตุเกี่ยวกับหูผิดปกติ เช่น โรคหินปูนในหู โรคน้ำในหูไม่เท่ากัน คนไข้อาจมีอาการวิงเวียนศรีษะ หน้ามืด คลื่นไส้อาเจียนได้ครับ
-Vasovagal syncope เป็นสาเหตุที่เกิดจากหลายระบบร่วมกัน พบได้ค่อนข้างบ่อย มักหน้ามืดตามหลัง เช่น การยืนตากแดดนานๆ การเบ่งนานๆ เป็นต้น ถ้าเป็นครั้งสองครั้งแล้วหาย อาจให้การรักษาแบบประคับประคอง เล่น การดื่มน้ำ นั่งพัก หยุดเบ่ง แต่ถ้าเป็นบ่อยๆ ต่องไปพบแพทยืเพื่อหาสาเหตุครับ
-ภาวะจิตใจ เช่น ความเครียด ภาวะ hyperventilation อาจทำให้มีอาการหน้ามืด ใจสั่น ปวดศรีษะได้ หายใจเร็ว สัมพันธืกับควสมเครียด ความตื่นเต้นได้ค่ะ แต่จะวินิจฉัยภาวะนี้ได้ ต้องไม่มีโรคทางกายอย่างอื่นคครับ
จะเห็นได้ว่า ถเามีอาการหน้า มืดบ่อยๆ จำเป็นมากที่คนไข้ควรไปพบแพทย์ เนื่องจากแต่ละสาเหตุ ล้วนอันตรายและต้องการการรักษาและการวินิจฉัยที่ถูกต้องครับ
ตอบโดยแพทย์ที่มีใบอนุญาต คำตอบของแพทย์เป็นการให้ความรู้และคำแนะนำเบื้องต้น ไม่สามารถแทนการวินิจฉัยโรค หรือการรักษา คุณควรพบแพทย์ที่สถานพยาบาลเพื่อให้แพทย์ตรวจทุกครั้ง หากคุณมีเหตุฉุกเฉินกรุณาโทรแจ้ง 1669
ปรึกษาเภสัช สั่งยา ฟรีค่าส่งทั่วประเทศ*
แชทกับเภสัชกรฟรี! 9 โมงเช้าถึงเที่ยงคืน พร้อมรับส่วนลดค่ายา 5% HDmall ออกค่าส่งให้สูงสุด 40 บาท
ตอบโดย
กันตณัฏฐ์
อยู่ตรีรักษ์ (แพทย์ทั่วไป)
(นพ.)
General physician
อาการหนาวสั่น มือชานั้นก็อาจเกิดได้จากหลายสาเหตุครับ เช่น
- มีการติดเชื้อในร่างกายบางอย่าง
- มีความผิดปกติของฮอร์โมนในร่างกาย
- ความผิดปกติของระบบประสาทบางอย่าง
หมอแนะนำให้ไปพบแพทย์เพื่อตรวจประเมินอาการไปพร้อมกับอาการหน้ามืดที่เกิดขึ้นครับ
ตอบโดยแพทย์ที่มีใบอนุญาต คำตอบของแพทย์เป็นการให้ความรู้และคำแนะนำเบื้องต้น ไม่สามารถแทนการวินิจฉัยโรค หรือการรักษา คุณควรพบแพทย์ที่สถานพยาบาลเพื่อให้แพทย์ตรวจทุกครั้ง หากคุณมีเหตุฉุกเฉินกรุณาโทรแจ้ง 1669
มีอาการหน้ามืดตอนเช้าค่ะ เป็นเกือบทุกวันตั้งแต่คลอดลูกคนแรก บางคืนมีอาการหนาวสั่นมือชา สาเหตุเกิดจากอะไรคะ
ตอบโดยแพทย์ที่มีใบอนุญาต (คำตอบนี้เป็นการให้คำแนะนำเบื้องต้น ไม่สามารถแทนการวินิจฉัยโรคหรือการรักษา คุณควรพบแพทย์เพื่อรับการตรวจหากมีอาการน่ากังวล)