เครียดโดยไม่มีสาเหตุค่ะ ไม่มีกำลังใจ ท้อ อยู่คนเดียวแล้วร้องไห้ทุกครั้งไม่รู้เป็นเพราะอะไร เริ่มคิดเรื่องอยากตายค่ะ นอนไม่หลับเข้านอนเที่ยงคืนแต่หลับจริงๆตีสองตีสามค่ะ กลัวตัวเองจะเป็นdepression เพื่อนแนะนำให้ไปพบนักจิตวิทยา ควรทำยังไงหรือมียาตัวไหนพอจะช่วยได้มั้ยคะ

สวัสดีครับ
การที่มีความเครียด ไม่มีกำลังใจ ร้องไห้โดยไม่มีสาเหตุ จนส่งผลต่อการนอน และมีความคิดอยากฆตายนั้นถือเป็นอาการที่อาจเสี่ยงต่อการเป็นโรคซึมเศร้าได้ครับ

อาการของโรคซึมเศร้านั้นจะประกอบด้วยการมีอารมณ์เศร้าหดหู่หรือเบื่อหน่ายไม่อยากทำอะไรต่อเนื่องกันอย่างน้อย 2 สัปดาห์ร่วมกับมีอาการ
- นอนไม่หลับหรืออยากนอนมากขึ้น
- เบื่ออาหารหรืออยากอาหารมากขึ้น
- อ่อนเพลียไม่มีแรง
- ไม่มีสมาธิ ความคิด ความจำแย่ลง
- คิดช้าทำช้าลงหรือกระสับกระส่ายมากขึ้น
- มีความคิดในแง่ลบ คิดโทษตัวเองบ่อยๆ หรือเห็นคุณค่าในตนเองลดลง
- เคยคิดหรือลงมือทำร้ายตัวเองหรือฆ่าตัวตาย
ถ้าหากมีอาการในลักษณะนี้หลายๆข้อ ร่วมกับอาการที่เป็นส่งผลรบกวนการใช้ชีวิตประจำวัน การเรียน การทำงาน หรือความสัมพันธ์กับคนรอบข้าง ก็จะมีโอกาสที่จะเป็นโรคซึมเศร้าได้มากขึ้นครับ

ในเบื้องต้นนั้นอาจลองทำแบบทดสอบตามลิงค์นี้เพื่อประเมินความเสี่ยงในการเป็นโรคซึมเศร้าด้วยตนเองก่อนได้ครับ

http://www.prdmh.com/แบบประเมินโรคซึมเศร้า-9-คำถาม-9q.html

ถ้าหากทำได้ตั้งแต่ 7 คะแนนขึ้นไปก็มีโอกาสที่จะเป็นโรคซึมเศร้าได้มากขึ้น

ในกรณีที่สงสัยว่าตนเองอาจจะเป็นโรคซึมเศร้าได้ หมอก็แนะนำว่าควรไปพบจิตแพทย์เพื่อตรวจประเมินอาการให้แน่ชัดก่อน และหลังจากนั้นก็ควรได้รับการรักษาภายใต้การดูแลของจิตแพทย์ครับ เนื่องจากยาที่ใช้ในการรักษาโรคซึมเศร้านั้นมีให้เลือกใช้หลายชนิดและหลายขนาด ซึ่งในการเลือกใช้ยาก็มีความจำเป็นที่จะต้องเลือกให้เหมาะสมกับผู้ป่วยเป็นรายคน และต้องมีการนัดมาติดตามอาการเพื่อปรับยาอย่างสม่ำเสมอ การรักษาโรคซึมเศร้าจึงไม่สามารถทำได้ด้วยตัวเองครับ

หากสงสัยเกี่ยวกับอาการของโรคซึมเศร้า สามารถเช็คอาการด้วยการทำแบบประเมินซึมเศร้าด้วยตัวเองดูก่อนนะคะ โดยในช่วงระยะเวลา 2 สัปดาห์ที่ผ่านมาจนถึงวันนี้มีอาการเหล่านี้มากน้อยแค่ไหน
ไม่มีเลย 0 คะแนน
มี 1-7 วัน 1 คะแนน
≥7 วัน 2 คะแนน
ทุกวัน 3 คะแนน
1. เบื่อหน่าย ไม่สนใจอยากจะทำอะไร
2. ไม่สบายใจ ซึมเศร้า ท้อแท้
3. หลับยาก หลับๆตื่นๆ หรือหลับมากเกินไป
4. เหนื่อยง่าย ไม่ค่อยมีแรง อ่อนเพลีย
5. เบื่ออาหาร หรือ กินได้มาก กินจุบจิบตลอดเวลา
6. รู้สึกไม่ดีกับตัวเอง คิดว่าล้มเหลว หรือคิดว่าทำให้ตนเองและครอบครัวผิดหวัง
7. ขาดสมาธิ เหม่อลอย ขี้ลืมบ่อย
8. ทำอะไรช้าลง กระสับกระส่าย อยู่นิ่งไม่ได้
9. คิดทำร้ายตัวเอง อยากตาย หรือตายไปจะดีกว่า
จากนั้นรวมคะแนน หากได้มากกว่า 7 คะแนนขึ้นไป อาจมีแนวโน้มที่จะเป็นซึมเศร้าได้ค่ะ แนะนำให้พบจิตแพทย์ ประเมินอาการเพิ่มเติม แล้วรับการรักษาด้วยวิธีที่เหมาะสม การรักษาที่ถูกต้องตามแนวทางโรคจะช่วยให้อาการดีขึ้น ปรับตัวได้มากขึ้น ใช้ชีวิตประจำวันได้อย่างปกติอีกครั้งนะคะ

การรักษาซึมเศร้าที่ได้ผลดี คือการเริ่มต้นรักษาตั้งแต่เริ่มมีอาการผิดปกติ ไม่ปล่อยให้อาการเรื้อรังหรือรุนแรงมากขึ้น การรักษามัทั้งการใช้ยาและการทำจิตบำบัดควบคู่กันไปค่ะ

สวัสดีครับ

จากอาการที่เล่ามาก็มีหลายอาการที่เป็นอาการของภาวะโรคซึมเศร้านะครับ โดยลักษณะอาการของโรคซึมเศร้านี้ก็จะมีลักษณะเหมือนอย่างที่คุณหมอและพี่นักจิตวิทยาได้ให้ความคิดเห็นไว้ด้านบนครับ

ในเบื้องต้นการเข้าพบกับจิตแพทย์จะทำให้คุณได้รับยาต้านซึมเศร้ามาทานนะครับหากคุณได้รับการวินิจฉัยว่าเป็นโรคซึมเศร้า โดยการเข้าพบจิตแพทย์ก็สามารถเข้าไปพบได้ตามโรงพยาบาลที่มีแผนกจิตเวชอยู่ครับ หากอยู่ในกรุงเทพฯ โรงพยาบาลใหญ่ๆเช่น รามา ศิริราช หรือโรงพยาบาลจุฬาฯ ก็จะมีแผนกเหล่านี้อยู่ครับ หรือจะไปตามโรงพยาบาลจิตเวชตามลิ้งค์ด้านล่างนี้ก็ได้นะครับ

https://www.honestdocs.co/list-of-psychiatric-hospitals-under-the-ministry-of-public-health

นอกจากจิตแพทย์แล้ว การเข้าพบกับนักจิตวิทยาเพื่อทำการบำบัดด้วยวิธีการรับคำปรึกษาก็สามารถทำได้ครับโดยในโรงพยาบาลบางแห่งจะมีนักจิตวิทยาเพื่อให้บริการเหล่านี้อยู่ เช่น โรงพยาบาลศรีธัญญา เป็นต้น ซึ่งอาจจะต้องตรวจสอบในเรื่องเวลาให้บริการและนัดคิวล่วงหน้าครับ หากว่าโรงพยาบาลนั้นๆ ไม่มีบริการ walk-in นอกจากนั้นแล้วนักจิตวิทยาตามสถานให้บริการเอกชนต่างๆก็อาจจะมีระยะเวลาการให้บริการที่ยาวนานกว่าบ้าง หรือในปัจจุบันมี application ที่ให้บริการคำปรึกษาออนไลน์อยู่ด้วย แต่อาจจะมีค่าใช้จ่ายที่สูงตามมาครับ

นอกจากการเข้าพบกับผู้เชี่ยวชาญ อีกสิ่งหนึ่งที่สำคัญก็คือการดูแลตนเองนะครับ การทำกิจกรรมต่างๆที่ช่วยทำให้คุณผ่อนคลายหรือมีความสุขกับการทำกิจกรรมเหล่านั้นก็จะสามารถช่วยในเรื่องของการปรับอารมณ์ของคุณได้ หากรู้สึกว่าการอยู่กับผู้อื่นช่วยให้เราลดอาการเครียดหรือความคิดการทำร้ายตนเองลงไปได้ ก็ลองแบ่งเวลาเพื่อใช้เวลากับเพื่อนๆให้มากขึ้นได้ครับ การแบ่งเวลามาซักเล็กน้อยในระหว่างวันหรือระหว่างอาทิตย์เพื่อทำเรื่องที่ทำให้ตนเองรู้สึกมีความสุข หรือทำกิจกรรมที่ช่วยให้คุณผ่อนคลาย เช่น การออกกำลังกาย การดูหนัง การฟังเพลง หรือแม้กระทั่งการเดินเล่น หรือไปในที่ที่คุณอยากไป ก็เป็นอีกหนึ่งทางเลือกสำหรับคุณในการดูแลสภาพจิตใจของคุณเองครับ

สุดท้ายนี้ขอเป็นกำลังใจให้คุณผ่านพ้นช่วงเวลาตรงนี้ไปนะครับ หากว่ามีคำถามอื่นๆก็สามารถสอบถามเข้ามาได้นะครับ