ครั้งแรกที่ไปหาหมอ เนื่องจาก มีก้อนขนาด 2 นิ้ว นูนสูง บริเวณขาขวา หมอบอกว่า เป็นไขมันใต้ผิวหนังอักเสบ จึงให้ยามาทาน หลังจากนั้นมาติดตามผล ก็ยังคงให้ยาชุดเดิมมาทาน ก้อนที่ว่ายุบลง แต่ปรากฏรอยแดงเป็นด่างๆดวงๆ บริเวณตั้งแต่หัวเข่าลงมาถึงปลายเท้าของขาทั้งสองข้าง หลายจุด รวมทั้งบริเวณสันกระดูกกต้นขา มีลักษณะตะปุ่มตะป่ำ ไม่เรียบ กดแล้วรู้สึกเจ็บบริเวณดังกล่าว บางครั้งมีอาการไข้ขึ้นสูง จึงไปพบหมออีกครั้ง หมอบอกว่าเป็น erythema nodosum(น่าจะโรคเดียวกันกับครั้งแรก) แต่ไม่ทราบสาเหตุที่แท้จริงว่าเกิดจากอะไร อาจจะมีความเป็นไปได้ว่า เกี่ยวข้องกับอาการต่อมน้ำเหลืองที่คออักเสบ (ตอนนี้รอฟังผลตรวจ) ช่วงอาทิตย์ที่ผ่านมา อาการก็ยังไม่ดีขึ้น มีอาการข้อเท้าบวมเพิ่มเข้ามา ชาบริเวณฝ่าเท้าและข้อเท้า เดินขากะเผลก รู้สึกเจ็บข้อเท้า ฝ่าเท้า เวลาเดิน หรือต้องลงน้ำหนักที่เท้า รวมๆ อาการที่กล่าวมา เป็นมา 2-3 เดือน และในอาทิตย์หน้ามีนัดตรวจ HPV เนื่องจากปีก่อนเคยตรวจ แล้วพบว่ามีความเสี่ยงต่ำ ตอนนั้นที่จริงหมอแนะนำให้ตรวจแบบละเอียด แต่ปล่อยล่วงเลยมาเกือบปี หมอจึงแนะนำให้ตรวจซ้ำอีกครั้ง อยากทราบว่า อาการทั้งหมดมีความเกี่ยวข้องกันหรือไม่ หรือเข้าข่ายอาการของโรคใดบ้างคะ? ก่อนหน้านี้ หมอที่เคยไปตรวจด้วย(หลายท่าน)บอกว่า อาจจะเป็น SLE, HIV, วัณโรคต่อมน้ำเหลือง ส่วนตัวลองเซิร์ฟด้วยตนเอง ไม่แน่ใจว่า เข้าข่าย มะเร็งกระดูก มะเร็งต่อมน้ำเหลือง หรือ โรคโลิตจางจากไขกระดูกฝ่อ(ปกติเป็นคนเลือดจากอยู่แล้ว)ด้วยหรือไม่ รบกวนวินิจฉัยเบื้องต้นให้ด้วยค่า ขอบคุณมากๆค่ะ