พึ่งเริ่มกินยาคุมแบบรายเดือนได้5-6วันแต่มีเพศสัมพันธ์แบบไม่ได้ป้องกันค่ะเผลอข้างใน แล้วพอครบ7วันจากที่มีเพศสัมพันธื มีเลือด และลิ่มเลือดออกจากช่องคลอด คือเป็นอะไรหรอค่ะ หลังจากมีเพศสัมพันธ์ก็กินยาคุมรายเดือนต่อ3วัน และลืมกินอีก2-3วันเพราะไข้ขึ้น ป่วยหนัก ตอนนี้ไม่ได้กินยาแล้วค่ะ เพราะป่วยด้วยมั้ยค่ะเลยมีเลือดออก

1. เลือดที่ออกมาเกิดจากอะไร

หากเลือดที่ออกมา เป็นหยดเลือดกะปริบกะปรอย และไม่มีอาการผิดปกติอื่น ๆ ร่วมด้วย เช่น ตกขาวปริมาณมากผิดปกติ, ตกขาวสีผิดปกติ, มีกลิ่นเหม็นคาวหรือกลิ่นรุนแรง, แสบหรือคันช่องคลอด, ปวดท้องรุนแรง ก็น่าจะเป็นเลือดกะปริบกะปรอยที่เกิดจากฮอร์โมนที่แปรปรวนค่ะ เนื่องจากใช้ยาคุมกำเนิดไม่เหมาะสม

อาการป่วยที่เป็นอยู่ จะมีส่วนที่ทำให้เกิดเลือดออกกะปริบกะปรอยร่วมด้วยหรือไม่ ไม่สามารถจะระบุแน่ชัดได้ หากสงสัย หรืออาการไม่ดีขึ้นจำเป็นต้องไปพบแพทย์/สูตินรีแพทย์เพื่อตรวจเพิ่มเติมค่ะ

2. ยาคุมรายเดือนที่ใช้ จะมีประโยชน์ และสามารถป้องกันการตั้งครรภ์ได้หรือไม่

อาจจะได้หรืออาจจะไม่ได้ค่ะ เช่น ถ้าผู้ถามใช้ยาคุมชนิดฮอร์โมนรวม แล้วไม่ได้เริ่มใช้ภายใน 5 วันแรกของการมีประจำเดือน จะต้องใช้ติดต่อกันให้ครบ 7 วันก่อนจึงจะมีเพศสัมพันธ์หลั่งในได้ หากมีเพศสัมพันธ์โดยเฉพาะที่ไม่ใช้ถุงยางก่อนจะเริ่มรับประทานยา หรือใน 7 วันแรกของการรับประทานยาคุมชนิดฮอร์โมนรวม ก็จะมีโอกาสตั้งครรภ์ได้ตามปกติเช่นเดียวกับผู้ที่ไม่ได้คุมกำเนิดนะคะ เนื่องจากยายังไม่มีผลป้องกันการตั้งครรภ์ได้ค่ะ

และเมื่อเวลาผ่านมานานแล้ว ไม่สามารถแก้ไขอะไรได้ จึงต้องรอดูว่าจะมีการตั้งครรภ์หรือไม่ค่ะ โดย ถ้ามีประจำเดือนมา ก็หมายถึงไม่มีการตั้งครรภ์ แต่ประจำเดือนจะมาเมื่อไหร่ คงตอบได้ยาก เนื่องจากผู้ถามใช้ยาคุมไม่เหมาะสม ฮอร์โมนจึงแปรปรวน คาดการณ์วันที่ไข่จะตกและวันที่จะมีประจำเดือนได้ยากค่ะ

ดังนั้น หากประจำเดือนมาช้ากว่าปกติมาก แนะนำให้ซื้อชุดทดสอบการตั้งครรภ์ทางปัสสาวะ มาตรวจในตอนเช้าหลังตื่นนอน ห่างจากวันที่มีเพศสัมพันธ์ครั้งล่าสุดอย่างน้อย 14 วัน

และระหว่างที่รอให้มีประจำเดือนมา ควรงดมีเพศสัมพันธ์ไปก่อน หรือหากจำเป็น ให้ใช้ถุงยางอนามัยร่วมด้วยทุกครั้งที่มีเพศสัมพันธ์นะคะ อย่าป้องกันด้วยการนับวันปลอดภัย, การหลั่งนอก หรือการใช้ยาคุมฉุกเฉิน เพราะจะมีโอกาสเกิดความผิดพลาดและตั้งครรภ์ได้มากค่ะ

1. ถ้าเริ่มใช้วันแรกที่มีประจำเดือน ก็จะถือว่ามีผลคุมกำเนิดได้ตั้งแต่วันแรกที่รับประทานค่ะ ดังนั้น ในกรณีนี้โอกาสจะตั้งครรภ์จึงน้อยมาก เพราะต่อให้หยุดใช้ยาคุม แล้วมีไข่ตกมาก็ตาม แต่อสุจิจากวันที่มีเพศสัมพันธ์ น่าจะไม่เหลืออยู่ หรือแม้จะตกค้างอยู่ก็ไม่มีความสามารถในการเข้าผสมกับไข่แล้วค่ะ

2. แต่ฮอร์โมนที่แปรปรวน (ทั้งการเริ่มใช้และการหยุดใช้ยาคุม) อาจส่งผลให้เกิดเลือดออกผิดปกติได้ โดยเฉพาะในกรณีที่ผู้ถามใช้บ้าง ลืมบ้าง ฮอร์โมนก็ยิ่งแปรปรวนค่ะ จึงน่าจะเป็นสาเหตุที่ทำให้มีเลือดออกกะปริบกะปรอยหรือประจำเดือนไม่ปกติ

ช่วงเวลาที่ผู้ถามมีเพศสัมพันธ์ โดยทั่วไปก็ไม่น่าจะมีไข่ตกอยู่แล้ว และเมื่อมีการเริ่มใช้ยาคุมอย่างถูกต้อง ก็เป็นไปได้ยากที่จะมีไข่ตกและผสมกับอสุจิได้ทันในช่วงเวลาดังกล่าว เมื่อไม่มีการปฏิสนธิ (ไข่ผสมกับอสุจิ) ก็ย่อมไม่เกิดการตั้งครรภ์ (การฝังตัวของตัวอ่อนที่เยื่อบุมดลูก) เลือดที่ออกมาจึงไม่น่าจะเป็นเลือดที่เกิดจากการฝังตัวของตัวอ่อนหรือเลือดล้างหน้าเด็ก และไม่ใช่ภาวะแท้งคุกคามค่ะ

ในกรณีที่ไม่มีอาการผิดปกติอื่น ๆ ร่วมด้วย ลองสังเกตอาการไปก่อนก็ได้ค่ะ แต่หากเลือดที่ออกมาเป็นอยู่นานหลายวันโดยที่ไม่ใช่ลักษณะของประจำเดือน หรือมีอาการปวดท้องรุนแรง มีไข้สูง หรืออาการผิดปกติอื่น ๆ ร่วมด้วย ควรต้องไปพบสูตินรีแพทย์เพื่อตรวจเพิ่มเติมนะคะ

3. ดังที่กล่าวไปแล้วในข้อ 1 - 2 ว่าหากเริ่มใช้ยาคุมถูกต้อง ก็มีโอกาสตั้งครรภ์น้อยมาก อย่างไรก็ตาม เนื่องจากไม่มีวิธีคุมกำเนิดใดที่จะสามารถป้องกันการตั้งครรภ์ได้ 100% ดังนั้น ในกรณีที่ไม่มีประจำเดือนมาตามปกติ แนะนำให้ตรวจการตั้งครรภ์ค่ะ