November 06, 2018 13:36
ตอบโดย
จินตนา แสงโพธิ์ (เภสัชกร)
หากใช้ถุงยางได้ถูกต้อง และไม่มีปัญหาถุงยางรั่วซึมหรือฉีกขาด ก็ไม่จำเป็นจะต้องใช้ยาคุมเพิ่มนะคะ เพราะมีโอกาสตั้งครรภ์ได้น้อย คือประมาณ 2% เท่านั้น
แต่ถ้าไม่ได้ตรวจสอบการรั่วซึมของถุงยาง หรือไม่มั่นใจว่าใช้ถูกต้องหรือไม่ หากต้องการผลคุมกำเนิดฉุกเฉิน ก็สามารถใช้ยาคุมฉุกเฉินได้ค่ะ โดยใช้ให้เร็วที่สุดที่ทำได้ ยิ่งเร็วยิ่งดี อย่างช้าไม่เกิน 120 ชั่วโมงหลังมีเพศสัมพันธ์ จะใช้ยาคุมฉุกเฉินยี่ห้อใดก็ได้ค่ะ และสามารถรับประทานแบบหมดแผงในครั้งเดียวได้เลย
ในกรณีที่มีความเสี่ยง เช่น ถุงยางฉีกขาด การใช้ยาคุมฉุกเฉินเร็วอาจช่วยลดความเสี่ยงลงมาได้บ้าง ให้เหลือโอกาสตั้งครรภ์อย่างน้อย 15% นะคะ (จะเห็นได้ว่า ถ้าใช้ถุงยางถูกต้องและไม่รั่วซึม ซึ่งมีตัวเลขความเสี่ยงต่ำมากอยู่แล้ว ก็ไม่มีประโยชน์ที่จะใช้ยาคุมฉุกเฉินเพิ่มค่ะ)
..
..
ส่วนยาคุมรายเดือน ไม่มีผลคุมกำเนิดฉุกเฉินค่ะ และหากเริ่มใช้ในตอนนี้ ก็ต้องรับประทานติดต่อกันหลายวันจึงจะเริ่มมีผลคุมกำเนิดได้ และยังทำให้ประจำเดือนที่กำลังจะมาถูกเลื่อนให้ช้าออกไปมาก จึงแนะนำว่ายังไม่ควรใช้นะคะ
และหากต้องการคุมกำเนิดด้วยยาคุมรายเดือนจริง ๆ ให้รอประจำเดือนมาก่อน เมื่อประจำเดือนมาแล้วก็เริ่มใช้ยาคุมรายเดือนแผงแรกภายใน 5 วันแรกของการมีประจำเดือนนะคะ การใช้ทันช่วงเวลาดังกล่าวจะถือว่ามีผลคุมกำเนิดได้เลยหลังรับประทานค่ะ
ตอบโดยแพทย์ที่มีใบอนุญาต คำตอบของแพทย์เป็นการให้ความรู้และคำแนะนำเบื้องต้น ไม่สามารถแทนการวินิจฉัยโรค หรือการรักษา คุณควรพบแพทย์ที่สถานพยาบาลเพื่อให้แพทย์ตรวจทุกครั้ง หากคุณมีเหตุฉุกเฉินกรุณาโทรแจ้ง 1669
ปรึกษาเภสัช สั่งยา ฟรีค่าส่งทั่วประเทศ*
แชทกับเภสัชกรฟรี! 9 โมงเช้าถึงเที่ยงคืน พร้อมรับส่วนลดค่ายา 5% HDmall ออกค่าส่งให้สูงสุด 40 บาท
ตอบโดย
พิชญาพร กูลนุวัฒน์ (พญ.)
สวัสดีค่ะ
หากพูดถึงยาคุมกำเนิกชนิดฉุกเฉิน ควรรับประทานภายใน 72 ชม หลังมีเพศสัมพันธ์ค่ะ
ทั้งนี้ ครั้งต่อไป ควรมีการคุมกำเนิดที่มีประสิทธิภาพมากขึ้น เช่นยาคุมกำเนิดชนิด 28 เม็ด ต่างจาก ชนิด 21 เม็ดตรงที่ 7 เม็ดสุดท้ายเป็นเม็ดแป้ง (หรือยาหลอก) มีไว้เพื่อกันการลืมรับประทานค่ะ
ดังนั้นการทำงานของยาทั้ง 2 แบบจะเหมือนกัน คือ
ยับยั้งการตกไข่ ซึ่งเป็นผลจากฮอร์โมน estradial (ขอแทนว่า E)และ อีกกลไกคือ ทำให้มูกเหนียวข้น อสุจิผ่านไม่ได้ กับ ทำให้ผนังมดลูกไม่เหมาะแก่การฝังตัว ซึ่งเป็นผลจากฮอร์โมน progesterone (ขอแทนว่า P) ค่ะ
การเริ่มรับประทานยาคุมแผงแรกให้เริ่มภายใน 5 วันแรกของการมีประจำเดือน และรับประทานต่อเนื่องตรงเวลาสม่ำเสมอ สามารถมีเพศสัมพันธ์หลั่งในได้เลยค่ะ มีโอกาสตั้งครรภ์น้อยมาก ไม่ถึง 1%
ผลข้างเคียงของยาคุมกำเนิดที่มีได้ทั่วไปคือ คลื่นไส้อาเจียน (ผลจาก estrogen E) เลือดออกกระปิดกระปอย (ผลจากโปรเจสเตอโรน P) น้ำหนักขึ้น (จาก P+E) หน้าเป็นฝ้า (จาก E) เจ็บเต้านม ปวดศีรษะ อารมณ์แปรปรวนได้ค่ะ
ถ้าหยุดรับประทาน ก็สามารถมีลูกได้ตามปกติค่ะ
สำหรับการคุมกำเนิดนอกจากยาคุมรายเดือนแล้ว ยังมีแบบฝัง แบบฉีด แบบห่วงคุมกำเนิด สามารถขอคำแนะนำ หรือลองหาข้อมูลเพิ่มเติมเพื่อเลือกวิธีที่ตนเองสะดวกได้ค่ะ
ตอบโดยแพทย์ที่มีใบอนุญาต คำตอบของแพทย์เป็นการให้ความรู้และคำแนะนำเบื้องต้น ไม่สามารถแทนการวินิจฉัยโรค หรือการรักษา คุณควรพบแพทย์ที่สถานพยาบาลเพื่อให้แพทย์ตรวจทุกครั้ง หากคุณมีเหตุฉุกเฉินกรุณาโทรแจ้ง 1669
ขออนุญาติคุณหมอแนะนำหน่อยคะ. พอดีว่าเมื่อวานมีเพศสัมพันธ์กับแฟนแต่ก้อป้องกันการใส่ถุงยางอยุ่นะคะ. แต่กังวลคะ. ขอคุณหมอแนะนำการกินยาคุมแบบเม็ดได้ไหมคะ. ควรกินเวลาไหนดีที่สุดคะ หรือปล่อย. รอให้ประจำเดือนมาแล้วค่อยกินคะ
ตอบโดยแพทย์ที่มีใบอนุญาต (คำตอบนี้เป็นการให้คำแนะนำเบื้องต้น ไม่สามารถแทนการวินิจฉัยโรคหรือการรักษา คุณควรพบแพทย์เพื่อรับการตรวจหากมีอาการน่ากังวล)