ทานยาคุมชนิด28เม็ดยี่ห้อซีราเซทติดต่อกันหลายเดือนรู้สึกช่วงหลังๆมีอาการประจำเดือนมาเยอะและบางครั้งก็มาเดือนละ2ครั้งเลยหยุดกินยาไป1เดือนและใช้วิธีหลั่งข้างนอกจากนั้นวันที่4/6/61 ประจำเดือนก็มาเลยตัดสินใจกลับมาทานยายี่ห้อดังกล่าวอีกครั้งหลังจากประจำเดือนมาแล้ว6วันและหลังจากทานยาไป2วันก็ได้มีเพศสัมพันธ์กับสามีโดยหลั่งข้างในจนมาถึงวันที่15/6/61ก็มีอาการคัดหน้าอกและเวียนหัว คลื่นใส้แบบนี้แสดงว่าตั้งครรภ์รึเปล่าค่ะ

1. การกลับมาใช้ยาคุมอีกครั้งหลังจากที่หยุดไป จะถือเป็นการใช้ "ยาคุมแผงแรก" ครั้งใหม่นะคะ ซึ่งหากใช้ไม่ทัน 5 วันแรกของการมีประจำเดือน จะต้องใช้ถุงยางอนามัยร่วมด้วยใน 2 วันแรกที่รับประทานซีราเซทค่ะ

จึงต้องพิจารณาว่าผู้ถามได้ปฏิบัติตามแนวทางดังกล่าวหรือไม่ หากใช่ ก็ถือว่ามีผลคุมกำเนิดจากยาคุมแล้วค่ะ

2. อย่างไรก็ตาม ไม่มีวิธีคุมกำเนิดใดที่จะสามารถป้องกันการตั้งครรภ์ได้ 100% การใช้ยาเม็ดคุมกำเนิด มีโอกาสตั้งครรภ์ได้ 0.3 - 9% นะคะ โดยตัวเลขจะค่อนไปทางต่ำ ถ้าใช้ได้ถูกต้องและรับประทานต่อเนื่องตรงเวลาสม่ำเสมอ หากรับประทานซีราเซทช้ากว่าเวลาปกติเกิน 12 ชั่วโมง จะไม่มีผลคุมกำเนิดต่อเนื่องค่ะ

และเนื่องจากการใช้ยาคุมชนิดฮอร์โมนโปรเจสตินเดี่ยวอย่างซีราเซท มีผลข้างเคียงเด่น ๆ ในเรื่องการมีเลือดออกกะปริบกะปรอย, ประจำเดือนไม่ปกติ และไม่มีประจำเดือน จึงอาจสังเกตได้ยากว่าไม่มีประจำเดือนจากผลของยาคุม หรือไม่มีประจำเดือนจากการตั้งครรภ์ โดยเฉพาะถ้าใช้ยาคุมไม่ถูกต้องหรือไม่เหมาะสม

3. ดังนั้น ในกรณีที่ไม่มั่นใจ แนะนำซื้อชุดทดสอบการตั้งครรภ์ทางปัสสาวะมาตรวจ ในตอนเช้าหลังตื่นนอน ห่างจากวันที่มีเพศสัมพันธ์ครั้งล่าสุดอย่างน้อย 14 วันนะคะ

เพราะหากใช้ผลทดสอบได้ถูกต้อง และตรวจในเวลาที่เหมาะสม ผลที่ได้จะมีความเชื่อมั่นได้มากกว่า 99% ซึ่งชัดเจนและแม่นยำกว่าการสังเกตจากอาการที่ผู้ถามสงสัยว่าเป็นอาการของคนท้อง เนื่องจากอาการดังกล่าว ไม่ได้เป็นอาการที่เฉพาะเจาะจงของการตั้งครรภ์ แต่สามารถเกิดจากสาเหตุอื่น ๆ ได้ค่ะ