June 14, 2018 16:30
ตอบโดย
จินตนา แสงโพธิ์ (เภสัชกร)
ไม่มีวิธีคุมกำเนิดใดที่ป้องกันการตั้งครรภ์ได้ 100% นะคะ แต่ถ้าใช้ถุงยางถูกต้องและไม่มีปัญหารั่วซึมหรือฉีกขาด มีโอกาสตั้งครรภ์น้อยมากเพียงแค่ 2% ค่ะ
ถ้าใช้ถุงยางถูกต้องและไม่มีปัญหารั่วซึมหรือฉีกขาด ไม่จำเป็นต้องรับประทานยาคุมฉุกเฉินนะคะ เพราะประสิทธิภาพไม่ได้สูงมากเหมือนวิธีคุมกำเนิดปกติอยู่แล้วค่ะ การใช้โดยไม่จำเป็นไม่ได้ช่วยให้ประสิทธิภาพในการป้องกันการตั้งครรภ์สูงขึ้น แต่จะได้รับผลข้างเคียงจากยาโดยไม่จำเป็นค่ะ
อย่างไรก็ตาม หากใช้ถุงยางไม่ถูกต้อง หรือถุงยางรั่วซึมหรือฉีกขาด การใช้ยาคุมฉุกเฉินเป็นวิธีป้องกันสำรองจะถือว่าเหมาะสมค่ะ และจะช่วยลดความเสี่ยงในการตั้งครรภ์ได้บ้าง โดยอาจมีโอกาสตั้งครรภ์ 15 - 25% ค่ะ (ตัวเลขจากงานวิจัยใหม่ ๆ อาจสูงหรือต่ำกว่านี้มาก ขึ้นกับว่าใช้ยับยั้งไข่ตกทันมั้ย หรือไข่ที่ตกมีการผสมกับอสุจิไปแล้วหรือยังค่ะ)
เลือดที่ออกมาภายใน 7 วันหลังใช้ยาคุมฉุกเฉิน ถ้าเป็นหยดเลือดกะปริบกะปรอยจะเป็นเพียงผลข้างเคียงจากยาค่ะ อาจเกิดหรือไม่เกิดขึ้นก็ได้ ไม่ว่าจะเกิดขึ้นหรือไม่ ไม่ได้บ่งชี้ว่าจะตั้งครรภ์หรือเปล่า
ประจำเดือนจะมาตามรอบปกตินะคะ อาจคลาดเคลื่อนไม่กี่วัน ถ้าเลือดที่ออกมา 8 - 12 มิ.ย. มีปริมาณมากเหมือนประจำเดือนปกติ และมาในช่วงที่คาดว่าจะมีประจำเดือนอยู่แล้ว ก็น่าจะเป็นประจำเดือนค่ะ และถ้าเป็นประจำเดือนก็คือไม่ตั้งครรภ์นะคะ
แต่หากไม่ใช่ประจำเดือน และประจำเดือนไม่มาตามรอบปกติ ให้ซื้อชุดทดสอบการตั้งครรภ์ทางปัสสาวะมาตรวจ ห่างจากวันที่มีเพศสัมพันธ์ครั้งล่าสุดอย่างน้อย 14 วันนะคะ
ตอบโดยแพทย์ที่มีใบอนุญาต คำตอบของแพทย์เป็นการให้ความรู้และคำแนะนำเบื้องต้น ไม่สามารถแทนการวินิจฉัยโรค หรือการรักษา คุณควรพบแพทย์ที่สถานพยาบาลเพื่อให้แพทย์ตรวจทุกครั้ง หากคุณมีเหตุฉุกเฉินกรุณาโทรแจ้ง 1669
ปรึกษาเภสัช สั่งยา ฟรีค่าส่งทั่วประเทศ*
แชทกับเภสัชกรฟรี! 9 โมงเช้าถึงเที่ยงคืน พร้อมรับส่วนลดค่ายา 5% HDmall ออกค่าส่งให้สูงสุด 40 บาท
คุณหมอค่ะ คือหนูกับแฟนมีอะไรกันตอนวันที่30 พ.ค. (ใส่ถุงยางด้วย) แล้วหลังจากมีอะไรกันเสร็จก็ไปซื้อยาคุมฉุกเฉินมาทาน (แบบเม็ดเดียว) พอทานไปผ่านไป7วัน ก็มีเลือดออกมาอ่ะค่ะ มาวันที่8-12 มิ.ย คืออยากทราบว่า หนูมีโอกาสที่จะท้องไหมค่ะ ตอนนี้ประจำเดือนก็ยังไม่มาเลยค่ะ ขอบคุณค่ะ
ตอบโดยแพทย์ที่มีใบอนุญาต (คำตอบนี้เป็นการให้คำแนะนำเบื้องต้น ไม่สามารถแทนการวินิจฉัยโรคหรือการรักษา คุณควรพบแพทย์เพื่อรับการตรวจหากมีอาการน่ากังวล)