สวัสดีค่ะคุณหมอ เมื่อสัปดาห์ก่อนหนูมีเพศสัมพันธ์กับแฟน หลังจากนั้นรู้สึกเจ็บที่อวัยวะเพศ ตรวจสอบตนเองคิดว่าอวัยวะเพศด้านนอกน่าจะเป็นแผล และเมื่อปัสสาวะจะรู้สึกเจ็บ ร่วมกับมีเลือดหยดหลังจากการปัสาวะ ตอนนั้นหนูยังไม่ได้ไปหาหมอ เพราะคิดว่าแผลจะหายได้เอง และเมื่อสองวันก่อน เริ่มมีอาการเจ็บบริเวณข้างขาหนีบข้างขวา มีก้อนกลมๆเหมือนกับต่อมน้ำเหลืองอักเสบเพิ่มขึ้นค่ะ อยากถามคุณหมอว่า อาการเหล่านี้มียาที่สามารถซื้อทานเพื่อลดการอักเสบ หรือทา ให้แผลหายเองได้เองได้ไหมคะ หรือแนะนำให้ไปพบแพทย์

สวัสดีค่ะ แผลที่อวัยวะเพศ เกิดได้จากหลายสาเหตุค่ะ แนะนำว่า ควรไปให้แพทย์ตรวจว่าเกิดจากสาเหตุใดค่ะ ที่พบได้ เช่น
- รูขุมขนอักเสบ ลักษณะจะคล้ายสิว เกิดเป็นหัวหนองตามรูขุมขนค่ะ เกิดจากการอักเสบติดเชื้อของรูขุมขน เป็นเชื้อที่ผิวหนังติดขึ้นมาเอง อาจเกิดจากความอับชื้น หรือมีการคันและเกานำมาก่อน ทำให้เกิดอักเสบขึ้น ปกติแล้วอาการมักหายไปได้เอง แต่หากปวดแสบมาก หรือมีหนอง สามารถรักษาด้วยยาฆ่าเชื้อทาเฉพาะที่ หรือยารับประทานค่ะ
- โรคติดเชื้อทางเพศสัมพันธ์ที่มีแผล เช่น โรคแผลริมอ่อน ลักษณะเป็นแผลวงกลม ขอบนิ่ม กลางแผลอาจพบหนองอยู่ภายในได้ค่ะ มักมีอาการเจ็บร่วมด้วย โรคแผลริมแข็ง(ซิฟิลิส) ขอบแผลจะแข็ง ฐานแผลจะแห้งๆมักไม่เจ็บ
- โรคแผลจากการติดเชื้อที่ผิวหนัง เช่นมีรอยถลอก หรือมีอาการคัน แล้วไปเกา ทำให้เกิดการอักเสบและติดเชื้อขึ้นมา การติดเชื้อราที่อวัยวะเพศ จะพบผื่นแดง ลักษณะเป็นวง มีอาการคัน อาจพบขอบแดงๆได้ จะคันมาก
- แผลจากการระคายเคืองต่างๆ เช่น การแพ้สบู่ แพ้ครีมอาบน้ำ หรือมีการเสียดสีของอวัยวะเพศ การใส่กางเกงที่รัดแน่นเกินไป ก็ทำให้เกิดแผลได้เช่นกันค่ะ

การรักษาในแต่ละสาเหตุจะแตกต่างกันไป แนะนำว่าให้ไปให้แพทย์ตรวจร่างกาย เพื่อดูว่าเป็นแผลแบบใด เพื่อการวินิจฉัยและรักษาที่ถูกต้องค่ะ
อาการก้อนที่ขาหนีบก็เช่นกัน เมื่อมีแผลนำมาก่อน อาจทำให้มีการติดเชื้อลามไปที่ต่อมน้ำเหลืองข้างเคียง เกิดเป็นต่อมน้ำเหลืองอักเสบได้ อย่างไรก็ดี ไม่ควรซื้อยามาทานเอง เนื่องจากอาจจะไม่ตรงกับเชื้อ หรือทานไม่ครบทำให้ไม่หาย แนะนำไปให้แพทย์ตรวจร่างกายก่อนค่ะ