คุณหมอคะ หนูมีข้อสงสัยอยากจะซักถาม หนูคบกับแฟนมา 4 ปี มีอะไรกันโดยไม่ได้ป้องกันหรือคุมกำเนิด ช่วงเดือนธ.ค.60-ต้นมี.ค.61 ไม่มีอะไรกันเลย พึ่งมีช่วงกลาง-ปลายเดือนมี.ค.61 เมื่อวันที่ 27 เม.ย. ที่ผ่านมา หนูมีอาการผิดปกติที่อวัยวะเพศ คือมีแผล และได้พบหมอ หมอวินิจฉัยว่าเป็นเริม ให้ยามารับประทาน หนูเลยอยากจะถามหมอว่า 1. เริมที่อวัยวะเพศมีสาเหตุมาจากการมีเพศสัมพันธ์หรือปัจจัยอื่น 2. หนูติดเชื้อมาจากแฟนใช่ไหมคะ แต่ถามเขา เขาบอกว่า เขาไม่เคยเป็น? หากติดมาจากแฟนจริง ต้องได้รับเชื้อตั้งแต่แรกที่คบกันหรือเปล่าคะ? 3. หรือช่วงที่ไม่ได้มีอะไรกัน แฟนอาจจะไปรับเชื้อมาจากคนอื่นหรือเปล่าคะ 4. หนูได้รับยาต้านไวรัสมารับประทาน ทุกๆชั่วโมง แล้วแฟนหนูที่ไม่มีอาการต้องรับยามาทานด้วยไหมคะ?

1. เริมที่อวัยวะเพศมีสาเหตุจากการติดเชื้อทางเพศสัมพันธ์ถูกต้องครับ เป็นเชื้อไวรัสประเภทหนึ่ง
2. สำหรับผู้ป่วยบางรายอาจมีอาการหรือผื่นขึ้นเพียงเล็กน้อยจนอาจไม่ตระหนักถึงโรคนี้ได้ครับ
3. ข้อนี้ไม่สามารถตอบได้ครับ
4. แนะนำให้พาแฟนไปตรวจที่ รพ. ครับ เพราะมีความเสี่ยงที่จะติดเชื้อได้เหมือนกัน และอาจต้องกินยาต้านไวรัสครับ

ต้องไปพบแพทย์เพื่อตรวจร่างกายหารอยโรคอย่างละเอียดก่อนครับ บางครั้งผู้ป่วยอาจมีรอยโรคที่ผู้ป่วยไม่สังเกตเห็นได้ หากแพทย์ตรวจพบอาจนำชิ้นเนื้อบริเวณนั้นไปตรวจทางห้องปฏิบัติการอีกทีครับ

1.โดยปกติการเป็นเริม ไม่ว่าจะที่ใดนั้น ย่อมเกิดมาจากการสัมผัสแต่อย่างไรก็ตาม ไม่ใช้ว่าทุกคนที่สัมผัสโรคแล้วจะเป็นโรคทุกคน ขึ้นกับปัจจัยสุขภาพ ความแข็งแรงของร่างกาย หากช่วงนั้นป่วย เป็นไข้ ไม่สบาย อาจจะทำให้เป็นโรค
2.เชื้อเริมนั้นตามจริงนั้นในทุกๆคน อาจมีการติดเชื้อมาก่อนหน้านี้แล้ว แต่ ไม่แสดงอาการ เพียงแต่หลบซ้อนอยู่ในบริเวณปมไขสันหลังเมื่อร่างกายอ่อนแอถึงเกิดโรคขึ้นมา
3.ขอไม่ออกความเห็น
4.ไม่จำเป็นเพราะแฟนไม่ได้แสดงอาการ แสดงว่าเชื้อไม่ก่อโรค