September 07, 2018 14:10
ตอบโดย
พิศุทธิกาญจญ์ รังคกูลนุวัฒน์ (พญ.)
สวัสดีค่ะ ถ้าคนไข้ไม่มีความเสี่ยงเกี่ยวกับการตั้งครรภ์เลย กล่าวคือ ไม่ได้มีเพศสัมพันธิมาก่อนหน้านี้เลย ปัจจัยที่จะทำให้ประจำเดือนที่เคยมา แล้วไม่มา หรือผิดปกติ มีหลายอย่างค่ะ ตัวอย่าง เช่น
1.ความเครียด การอดอาหารนานๆ และการออกกำลังกายอยางหักโหมมากเกินไป ทำให้ประจำเดือนขาดได้ค่ะ พบได้บ่อยที่สุด
2.การใช้ยาฮอร์โมนต่างๆ เช่น ยาคุมกำเนิด แบบฉีด หรือยาบางอย่าง เช่น ยารักษาโรคทางจิตเวช
3.โรคทางระบบสืบพันธ์บางชนิด เช่น ถุงน้ำรังไข่ ( PCOS) อาจทำให้ประจำเดือนมาไม่ปกติได้
4.ฮอร์โมน ไทรอยด์ผิดปกติ ซึ่งจะต้องทีอาการอื่นๆร่วมด้วย เช่น ใจสั่น กินจุ น้ำหนักลด หรือ ฮอร์โมนจากรังไข่ผิดปกติ อาจทำให้ไม่เกิดการตกไข่ ทำให้ประจำเดือนมาไม่ปกติ ไม่มา หรือมาแบบกระปริบกระปรอย เป็นต้นค่ะ
5. โรคทางการกินที่ผิดปกติ (anorexia) ซึ่งเป็นโรคทางจิตเวชอย่างหนึ่ง หากอดอาหาร หรือทานอาหารไม่ถูกวิธีนานๆ จะทำให้ขาดประจำเดือนได้ค่ะ
ถ้าคนไข้มีอาการต่างๆที่ผิดปกติดังที่กล่าวไป แนะนำให้ไปพบแพทย์เพื่อตรวจร่างกายหรือตรวจภายในเพิ่มเติมนะคะ
หากประจำเดือนมาล่าช้ากว่าปกติ และไม่ได้เป็นมาติดต่อกันนานเกิน 3 ครั้ง ก็ให้รอดูอาการก่อนได้ค่ะ หากเกิน 3 เดือนประจำเดือนไม่มา แนะนำให้ไปตรวจร่างกาย และตรวจภายในเพิ่มเติมนะคะ
อนึ่ง การทำใจให้สบาย พักผ่อนให้เพียงพอ รับประทานอาหารที่มีประโยชน์ ระมัดระวังเรื่องการใช้ยาหรืออาหารเสริมที่แพทย์ไม่ได้สั่ง และออกกำลังกาย จะช่วยให้สมดุลฮอร์โมนดีและทำให้ประจำเดือนมาสม่ำเสมอค่ะ
ตอบโดยแพทย์ที่มีใบอนุญาต คำตอบของแพทย์เป็นการให้ความรู้และคำแนะนำเบื้องต้น ไม่สามารถแทนการวินิจฉัยโรค หรือการรักษา คุณควรพบแพทย์ที่สถานพยาบาลเพื่อให้แพทย์ตรวจทุกครั้ง หากคุณมีเหตุฉุกเฉินกรุณาโทรแจ้ง 1669
ปรึกษาเภสัช สั่งยา ฟรีค่าส่งทั่วประเทศ*
แชทกับเภสัชกรฟรี! 9 โมงเช้าถึงเที่ยงคืน พร้อมรับส่วนลดค่ายา 5% HDmall ออกค่าส่งให้สูงสุด 40 บาท
ตอบโดย
อนรรฆวี ฉง (พญ.)
ประจำเดือนไม่มา
อันนี้ต้องถามประวัติเพิ่มเติมค่ะ เรื่องประวัติเพศสัมพันธ์ ได้มีเพศสัมพันธ์ในช่วงระหว่างนี้หรือไม่ค่ะ แล้วก็อายุค่ะว่าอายุเท่าไร อยู่ในวัยเริ่มมีประจำเดือน/ใกล้หมดประจำเดือนหรือยังค่ะ
ภาวะผิดปกติของประจำเดือนมีดังนี้ค่ะ
1)ภาวะประจำเดือนผิดปกติที่เกิดขึ้นในสตรีที่เริ่ม/ใกล้หมดประจำเดือน เป็นภาวะที่เกิดจากการไม่ตกไข่ จึงทำให้ไม่มีการสร้างแหล่งผลิตฮอร์โมนโปรเจสเทอร์โรน ดังนั้นร่างกายจึงมีฮอร์โมนเอสโตรเจนเพียงอย่างเดียว ทำให้เยื่อบุโพรงมดลูกถูกกระตุ้นให้หนาตัวมากขึ้นเรื่อยๆ ทำให้ไม่มีประจำเดือนในช่วงแรก ต่อมาเมื่อเยื่อบุโพรงมดลูกหนาตัวมากก็จะเกิดการหลุดลอกได้ง่าย หากการหลุดลอกเกิดขึ้นเพียงบางจุดก็จะทำให้มีเลือดออกกะปริดกะปรอย หากเกิดการหลุดลอกของเยื่อบุโพรงมดลูกเป็นบริเวณกว้างก็จะทำให้เลือดออกในปริมาณมาก โดยพบได้บ่อยในสตรีที่เริ่มมีประจำเดือนโดยเฉพาะในช่วง 2-3 ปีแรกหลังจากเริ่มมีประจำเดือน*** และสตรีที่ใกล้จะหมดประจำเดือน*** อย่างไรก็ดีอาจจะพบภาวะดังกล่าวได้ในสตรีวัยเจริญพันธ์ซึ่งมักจะสัมพันธ์กับภาวะถุงน้ำในรังไข่ซึ่งทำให้เกิดการไม่ตกไข่แบบเรื้อรัง อาจมีอาการร่วมอื่นๆ เช่น ขนดก เป็นสิว ผิวมันได้ค่ะ การรักษาของชนิดนี้คือการปรับระดับฮอร์โมนค่ะ
2)ภาวะที่ประจำเดือนมาสม่ำเสมอแต่มีภาวะผิดปกติขัดขวางการมีประจำเดือน ได้แก่ การตั้งครรภ์ทั้งในและนอกมดลูก เนื้องอกกล้ามเนื้อมดลูก ติ่งเนื้อในโพรงมดลูกหรือช่องคอมดลูก เยื่อบุโพรงมดลูกอักเสบจากการติดเชื้อ เยื่อบุโพรงมดลูกหนาตัว มะเร็งเยื่อบุโพรงมดลูกและภาวะการได้รับฮอร์โมนจากภายนอกเข้าไป เป็นต้น ซึ่งอันนี้ต้องได้รับการตรวจร่างกายและอัลตราซาวน์โดยละเอียดเพื่อหาความผิดปกติค่ะ
3)ภาวะความผิดปกติอื่นๆ เช่น ภาวะโรคเรื้อรัง เช่น
โรคไทรอยด์ ภาวะเครียดทั้งร่างกาย เช่นรับประทานอาหารไม่ได้ น้ำหนักลดลงอย่างรวดเร็ว และทางจิตใจค่ะ
แต่สิ่งที่ควรทำสิ่งแรกคือแยกเรื่องภาวะการตั้งครรภ์ แต่หากแน่ใจว่าไม่ตั้งครรภ์ก็อาจจะไปพบแพทย์เพื่อหาสาเหตุเพิ่มเติมได้ค่ะ
ส่วนอาการปวดท้องร้อยปวดหลังอาจจะนึกถึงภาวะกรวยไตอักเสบ
สำหรับอาการปัสสาวะขัดร่วมกับมีอาการปวดบริเวณหลัง เป็นอาการที่มีลักษณะคล้ายกับการติดเขื้อทางเดินปัสสาวะ ร่วมกับอาจมีภาวะกรวยไตอักเสบร่วมด้วยค่ะ อาจมีอาการอื่นๆ เช่น มีไข้หนาวสั่น ปัสสาวะขุ่น ปัสสาวะแสบขัด ปวดบริเวณบั้นเอว ปัสสาวะมีเลือดปน เป็นต้น สิ่งที่ควรทำคือไปพบแพทย์เพื่อตรวจปัสสาวะว่ามีอาการอักเสบของทางเดินปัสสาวะหรือไม่ หากมีก็จะได้รับยาฆ่าเชื้อสำหรับการรักษาค่ะ ส่วนจะมีนิ่วหรือมีภาวะแทรกซ้อนอื่นๆ เช่นการอุดตันทางเดินปัสสาวะ หรือหนองในไตร่วมด้วยหรือไม่ อาจทำเอกซเรย์หรืออัลตราซาวน์เพื่อประเมินเพิ่มเติมค่ะ ซึ่งขึ้นอยู่กับดุลยพินิจของแพทย์ท่านนั้นๆร่วมกับการตรวจร่างกายค่ะ
ตอบโดยแพทย์ที่มีใบอนุญาต คำตอบของแพทย์เป็นการให้ความรู้และคำแนะนำเบื้องต้น ไม่สามารถแทนการวินิจฉัยโรค หรือการรักษา คุณควรพบแพทย์ที่สถานพยาบาลเพื่อให้แพทย์ตรวจทุกครั้ง หากคุณมีเหตุฉุกเฉินกรุณาโทรแจ้ง 1669
ไม่เป็นประจำเดือนมาเกือบจะ2เดือนแล้ว แต่มีอาการปวดท้องน้อย ปวดหลัง อยากทราบสาเหตุค่ะ ปล.ไม่ได้มีเพศสัมพันธ์มาก่อนหน้านี้
ตอบโดยแพทย์ที่มีใบอนุญาต (คำตอบนี้เป็นการให้คำแนะนำเบื้องต้น ไม่สามารถแทนการวินิจฉัยโรคหรือการรักษา คุณควรพบแพทย์เพื่อรับการตรวจหากมีอาการน่ากังวล)