June 14, 2018 22:22
ตอบโดย
พิศุทธิกาญจญ์ รังคกูลนุวัฒน์ (พญ.)
ถ้าคนไข้ไม่มีความเสี่ยงเกี่ยวกับการตั้งครรภ์ เลย ปัจจัยที่จะทำให้ประจำเดือนที่เคยมา แล้วไม่มา มีหลายอย่างค่ะ ตัวอย่าง เช่น
1.ความเครียด พบได้บ่อยที่สุด
2.การใช้ยาฮอร์โมนต่างๆ เช่น ยาคุมกำเนิด แบบฉีด หรือยาบางอย่าง เช่นทยารักษาโรคทางจิตเวช
3.โรคทางระบบสืบพันธ์บางชนิด เช่น ถุงน้ำรังไข่ ( PCOS) อาจทำให้ประจำเดือนมาไม่ปกติได้
4.ฮอร์โมน ไทรอยด์ผิดปกติ ซึ่งจะต้องทีอาการอื่นๆร่วมด้วย เช่น ใจสั่น กินจุ น้ำหนักลดค่ะ
โดยปกติ ถ้าไม่มีอาการผิดปกติอื่นๆ หากเกิน 3 เดือนประจำเดือนไม่มา แนะนำให้ไปตรวจร่างกาย และตรวจภายในเพิ่มเติมนะคะ
การลดความเครียด ผ่อนคลาย ออกกำลังกายสม่ำเสมอ ทำให้สมดุลฮอร์โมนดีขึ้นทและช่วยในเรื่องของประจำเดือนด้วยค่ะ
อนึ่ง ผู้หญิงโดยปกติ ก็สามารถมีตกขาวได้ค่ะ ตกขาวมีสองแบบค่ะ คือ ตกขาวที่ปกติ กับตกขาวที่ไม่ปกติ
1.ตกขาวที่ปกติ เป็นอิทธิพลจากฮอร์โมนเอสโตรเจนในผู้หญิงค่ะ ลักษณะตกขาว จะเป็นสีขาวคล้ายมูก บางครั้งเหลืองปริมาณไม่มาก ลักษณะจะไม่เหมือนหนองนะคะ เป็นการหลุดลอกของบริเวณผิวเยื่อบุช่องคลอดค่ะ
2.ตกขาวที่ผิดปกติ คือตกขาวที่มีปริมาณมาก ลักษณะสีขาว/เหลืองเหมือนนมบูด อาจพบร่วมกับอาการคันช่องคลอดได้ หรือนกขาวมีสีต่างๆ เช่น เป็นน้ำสีเหลือง สีเขียว มีกลิ่นเหม็นหรือไม่มีกลิ่น แสบหรือเจ็บช่องคลอด ยางคนอาจปวดท้องมีไข้ได้ ดังนั้น หากประจำเดือนไม่มา ร่วมกับตกขาวผิดปก ก็อาจจะเกิดจากการติดเชื้อได้ค่ะ เช่น เชื้อแบคทีเรีย เป็นต้น หากมีอาการตกขาวผิดปกติดังที่กล่าวมา แนะนำให้ไปพบแพทย์เพื่อตรวจร่างกาย ตรวจภายในเพิ่มเติมค่ะ
ตอบโดยแพทย์ที่มีใบอนุญาต คำตอบของแพทย์เป็นการให้ความรู้และคำแนะนำเบื้องต้น ไม่สามารถแทนการวินิจฉัยโรค หรือการรักษา คุณควรพบแพทย์ที่สถานพยาบาลเพื่อให้แพทย์ตรวจทุกครั้ง หากคุณมีเหตุฉุกเฉินกรุณาโทรแจ้ง 1669
ปรึกษาเภสัช สั่งยา ฟรีค่าส่งทั่วประเทศ*
แชทกับเภสัชกรฟรี! 9 โมงเช้าถึงเที่ยงคืน พร้อมรับส่วนลดค่ายา 5% HDmall ออกค่าส่งให้สูงสุด 40 บาท
พอดีอยากทราบค่ะว่า ประจำเดือนยังไม่มาเป็นเวลาประมาน 1เดือน แต่มีการตกขาว ตรวจครรภ์แล้วไม่ท้อง อยากทราบว่าเกิดจากอะไรค่ะ
ตอบโดยแพทย์ที่มีใบอนุญาต (คำตอบนี้เป็นการให้คำแนะนำเบื้องต้น ไม่สามารถแทนการวินิจฉัยโรคหรือการรักษา คุณควรพบแพทย์เพื่อรับการตรวจหากมีอาการน่ากังวล)